วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Home by Samitivej - บริการดูแลผู้สูงอายุ...เร็วๆนี้

บริการดูแลผู้สูงอายุ...เปิดบริการเร็วๆนี้


สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ info.srinakarin@samitivej.co.th

การดูแลและฟื้นฟูสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ
                ด้วยทีมแพทย์และพยาบาล  บุคลาการที่มีประสบการณ์และความเข้าใจ  ใส่ใจในการดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด  โดยใช้ความรู้วิชาการเฉพาะทางด้านผู้สูงอายุและเทคโนโลยีต่างๆที่ทันสมัย
                ผู้สูงอายุสามารถรับบริการได้อย่างครบวงจร  โดยมีแพทย์และพยาบาลที่ให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยทีมนักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรม และสันทนาการ และพนักงานผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ดังนั้นท่านสามารถไว้วางใจเราให้ดูแลบุคคลที่ท่านรัก เพื่อให้บุคคลที่ท่านรักมีความสุข ทั้งร่างกาย จิตใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
การดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ
  • รับผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  • กลุ่มผู้สูงอายุทั้งที่ช่วยเหลือตนเองได้  และต้องการความช่วยเหลือ
  • กลุ่มผู้สูงอายุโรคอัมพาต  อัมพฤกษ์  หัวใจ  เบาหวาน  ความดันโลหิตสูง  อัลไซเมอร์  ความจำเสื่อม
  • กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคติดต่อ  ไม่มีอาการทางจิตเวช  ไม่มีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน  หรือเป็นโรคระยะสุดท้าย
  • ผู้ที่มีสัญญาณชีพคงที่
  • ผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการการดูแลและการตรวจวินิจฉัยแบบพิเศษ เช่น การให้ยาทางหลอดเลือดดำ การให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ การให้ออกซิเจน การใช้เครื่องช่วยหายใจ
  • ผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการการพยาบาลแบบพิเศษ เช่น การติดตามสัญญาณชีพบ่อย การให้ยาที่ต้องติดตามอาการ การดูดเสมหะบ่อยๆ
  • กรณีเป็นผู้สูงอายุรับย้ายจากหอผู้ป่วยในโรงพยาบาล ต้องให้แพทย์เจ้าของไข้รับทราบและอนุญาตก่อนทุกครั้ง 
  • กรณีรับเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลฯ อื่น ต้องมีประวัติและรายละเอียดการรักษาแจ้งให้ทราบด้วย
  • ผู้สูงอายุสามารถเลือกรับบริการได้หลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบรายสัปดาห์  รายเดือน  
นอกจากเราจะให้บริการดูแลฟื้นฟูสุขภาพทางกายสำหรับผู้สูงอายุแล้ว  เรายังพร้อมที่จะดูแลทางด้านจิตใจ  และพัฒนาสภาวะทางสังคม ไม่ให้กลุ่มผู้สูงอายุรู้สึกเหงา หรือถูกทอดทิ้ง
Why Homebysamitivej?
Home by Samitivej เป็นสถานที่ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้กับผู้สูงอายุที่ท่านรัก ด้วยสถานที่กว้างขวาง ร่มรื่น และเป็นธรรมชาติ



การออกแบบห้องพักเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
  • พื้นที่ห้องพักใช้วัสดุไม่ลื่น  ไม่มีพื้นต่างระดับ  ไม่มีธรณีประตู  ป้องกันการสะดุดล้ม
  • ภายในห้องพักแสงสว่างไม่จ้า  ได้รับแสงธรรมชาติทั่วถึง  และมีการระบายอากาศที่ดี
สัญญาณฉุกเฉิน
  • มีการติดตั้งสัญญาณฉุกเฉินไว้ที่บริเวณเตียงนอน และในห้องน้ำ ป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น
ปลั๊กไฟและสวิตซ์ไฟ
  • สูงจากพื้น 90 ซม. เพื่อหลีกเลี่ยงการก้ม
  • สวิตซ์ไฟมีขนาดใหญ่กว่าปกติ  และมีเรืองแสงเมื่อปิดสวิตซ์
ห้องน้ำ
  • ติดตั้งราวจับเพื่อช่วยในการทรงตัว
  • พื้นกระเบื้องเป็นวัสดุชนิดไม่ลื่น
  • อ่างอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
  • สุขภัณฑ์ทำงานโดยอัตโนมัติสะดวกแก่การใช้งาน
  • ประตูเป็นบานเลื่อน เข้า – ออก สะดวก
Big Bath
  • บริการห้องอาบน้ำขนาดใหญ่  ที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ป้องกัน และรองรับการลื่นล้ม รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็น สามารถเคลื่อนย้ายเข้า-ออกได้อย่างสะดวก 
ขั้นตอนการตรวจความพร้อมก่อนเข้ารับบริการ 
  1. ตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน โดยทีมแพทย์ และพยาบาลจากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
  2. ซักประวัติ ตรวจสภาวะความพร้อมของร่างกาย 
  3. ร่วมวางแผนการดูแล ระหว่างญาติหรือผู้สนับสนุน กับเจ้าหน้าที่ของ Home By Samitivej 
  4. ให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ผู้เข้ารับบริการ
เงื่อนไขการเข้ารับบริการ 
  1. ผู้สูงอายุอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ทั้งที่ช่วยเหลือตนเองได้ หรือต้องการความช่วยเหลือ 
  2. ผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีอาการทางจิตเวช  
  3. ผู้สูงอายุที่ไม่เจ็บป่วยเฉียบพลันหรือเป็นโรคระยะสุดท้าย
  4. ผู้สูงอายุกลุ่มภาวะโรคสมองเสื่อม
  5. กลุ่มผู้สูงอายุโรคอัมพาต อัมพฤกษ์
  6. สัญญาณชีพคงที่
  7. ผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการการดูแลและการตรวจวินิจฉัยแบบพิเศษ เช่น การให้ยาทางหลอดเลือดดำ การให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ การให้ออกซิเจน การใช้เครื่องช่วยหายใจ
  8. ผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการการพยาบาลแบบพิเศษ เช่น การติดตามสัญญาณชีพบ่อย การให้ยาที่ต้องติดตามอาการ การดูดเสมหะบ่อยๆ
  9. กรณีเป็นผู้สูงอายุรับย้ายจากหอผู้ป่วยในโรงพยาบาล ต้องให้แพทย์เจ้าของไข้รับทราบและอนุญาต
  10. กรณีรับย้ายจากโรงพยาบาลอื่น ต้องมีประวัติและรายละเอียดการรักษา
กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ
  1. กิจกรรมในแต่ละวัน เช่น การออกกำลังกายตอนเช้า  ตักบาตรทุกเช้าวันศุกร์  ร่วมเล่นเกมส์เพื่อฝึกพัฒนาการทางสังคม  ร้องเพลง
  2. กิจกรรมนอกสถานที่ในโอกาสพิเศษ เช่น ทำบุญที่วัด  การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ การท่องเที่ยว หรือ ช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
  3. กิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ  เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง วันวาเลนไทน์
การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
  • กายภาพบำบัด และฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย 
การทำกายภาพบำบัด  เพื่อฟื้นฟูสมรรถาพทางร่างกายให้สามารถกลับมาใกล้เคียงเป็นปกติมากที่สุด  โดยทีมนักกายภาพที่มีคุณภาพ และความเชี่ยวชาญ  ดูแลผู้สูงอายุด้วยความใส่ใจ  เข้าใจปัญหาของผู้สูงอายุในบรรยากาศที่เป็นกันเอง  ผ่อนคลาย  สนุกสนาน  พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย  ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล
  • กิจกรรมบำบัด
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบำบัดผู้สูงอายุทางด้านความคิด  ความจำ  เน้นการฝึกให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินกิจวัตร
ประจำวันได้ดียิ่งขึ้น  อีกทั้งยังสร้างความสนุก และเพิ่มความสุขให้แก่ผู้สูงอายุอีกด้วย
สอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ที่
Home by Samitivej ชั้น 11 โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
โทร : 02-378-9168, 02-378-9170

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ถุงน้ำที่เต้านม (Cyst) หรือ มะเร็งเต้านม (Breast Cancer)






(จากซ้าย) น.พ.วิชัย วาสนสิริ,พ.ญ.วิจิตรา อาสาฬห์ประกิต,  น.พ.สุขไชย สาทถาพร,
ทีมศัลยแพทย์มะเร็งเต้านม สมิติเวช สุขุมวิ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นก้อนเนื้อประเภทไหน?
    ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยในปัจจุบัน  ไม่จำเป็นต้องตัดก้อนเนื้อทั้งก้อนเพื่อทำการตรวจ แต่เริ่มด้วยการเอกซเรย์เต้านม พร้อมทำอัลตราซาวด์ หรือการตรวจชิ้นเนื้อ หากพบว่ามีข้อผิดปกติ
ในกรณีที่เป็นเนื้อร้าย (มะเร็งเต้านม) การรักษาทำได้อย่างไร ?
    ประกอบด้วยการรักษาในหลายวิธีร่วมกัน เช่น การผ่าตัดแบบเก็บเต้านม และตัดเต้านมออกทั้งหมด, การสร้าง เต้านมใหม่, ยาเคมีบำบัด, การฉายแสง, ฮอร์โมนบำบัด เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด

* ในบางกรณี การตรวจวินิจฉัยและรักษาสามารถทำได้เสร็จภายใน 1 วัน แต่แพทย์อาจทำการนัดหมายเพื่อติดตามอาการ

การจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก (Invisalign) คือ อะไร












การจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก (Invisalign) คือ อะไร
การจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก เป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันที่มีความใสและสามารถ ถอดออกได้ และออก แบบมาเพื่อให้เหมาะกับคนไข้แต่ละบุคคล เครื่อง มือจัดฟันแบบใส (aligners) นี้สามารถทำให้ฟัน ของคุณจัดเรียงได้สวยงาม โดยที่ไม่มีใครรู้ ต่าง จากการจัดฟันแบบใส่เหล็กทั่วไป โดยเครื่องมือจัด ฟันแต่ละชุดจะค่อยๆจัดเรียงฟันอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การแปรงฟันและการทานอาหาร ของคุณไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

วิธีการรักษา

เฉลี่ยแล้ว จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2  ปี ซึ่งจะใช้เวลาการรักษาน้อยกว่าการจัดฟันแบบด้านนอกทั่วไป ประมาณ 30 % ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล  โดยคุณควรเข้ามาพบแพทย์จัดฟันทุกๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อดูความคืบหน้าของการจัดเรียงฟัน และเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันชุดใหม่ ซึ่งแต่ละชุดจะทำให้ฟันค่อยๆ เคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่แพทย์จัดฟันกำหนดไว้ ส่วนจำนวนชุดของเครื่องมือจัดฟัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ของแต่ละบุคคลโดยมีแพทย์จัดฟันเป็นผู้กำหนด

ใส่และสบาย

ประโยชน์ของการจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก เป็นการจัดฟันเพื่อไม่ให้ใครมองเห็น ด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบใส สบายกว่า ไม่ทำให้ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อภายในปากของคุณ นอกจากนี้ ยังสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย ในขณะการแปรงฟันและการรับประทานอาหาร
นอกจากนั้น ยังช่วยลดการก่อให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้อีกด้วย การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กนี้จะทำให้คุณ มีรอยยิ้มที่สวยงามโดยปราศจากเหล็กจัดฟัน


การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กแตกต่างจากการจัดฟันแบบอื่นอย่างไร
เมื่อคุณดูจากตารางด้านล่างแล้ว จะพบความแตกต่างของการจัดฟันแต่และแบบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กนั้นมีความโดดเด่นในความสามารถอย่างเห็นได้ชัดเจน
การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กเหมาะกับคุณหรือไม่?
ด้วยวิธีการจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก  ทำให้หลายร้อยหลายพันคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีร้อยยิ้มที่น่ามหัศจรรย์มาแล้ว  ทำไมจัดฟันแบบใสไร้เหล็กจึงจะไม่เหมาะกับคุณล่ะ?

ถ้ารอยยิ้มของคุณต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดี  การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กเป็นอีกทางเลือกที่คุณกำลังมองหาอยู่แน่นอน  เพราะการจัดฟันแบบใสไร้เหล็กนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพทางทันตกรรมจัดฟันแพร่หลายทั่วโลก  และนวัตกรรมนี้กำลังจะเป็นที่แพร่หลายในศตวรรษที่ 21 นี้ อีกด้วย   มันจะเปลี่ยนชีวิตของคุณ

ประโยชน์ของการจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก

การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กช่วยให้สุขภาพปากดียิ่งขึ้นได้

การจัดฟันที่ทำให้ฟันบีบตัวเข้าหากันหรือขยายตัวออกไปนั้น  สามารถทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้ เช่น เหงือกบวม เหงือกอักเสบแดง และร่องลึกปฏิทันต์  โรคเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของโรคเกี่ยวกับเหงือกทั้งสิ้น  แต่การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กนั้น นอกจากจะทำให้สุขภาพฟันแข็งแรงขึ้นแล้ว  ยังช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า ฟันจะถูกจัดให้เหมะสมกับสุขภาพปากด้วย

สุขภาพเหงือกดีขึ้น
จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่าการจัดฟันแบบใสไร้เหล็กสามารถช่วยทำให้สุขภาพเหงือกดีขึ้นได้ เนื่องจากการจัดฟันที่ถูกต้องจะทำให้เหงือกบริเวณรอบๆฟันเข้าที่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งนำไปสู่สุขภาพปากที่ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังทำให้สามารถแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ จึงช่วยทำให้ลดปัญหาโรคฟันผุและโรคเหงือกได้

การทำความสะอาดง่ายขึ้น
การจัดฟันแบบเหล็กทั่วไปนั้น จะมีเส้นเหล็ก ซึ่งเป็นตัวจับคราบอาหารและคราบพลัคได้อย่างดี แต่การจัดฟันแบบใสไร้เหล็กไม่มีเส้นเหล็กแต่อย่างใด จึงช่วยให้ลดโอกาสเกิดคราบพลัค อาการฟันผุและโรคเกี่ยวกับเหงือกได้ ซึ่งช่วยทำให้สุขภาพปากสะอาดและดียิ่งขึ้น ทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ทำให้การเคี้ยวและการพูดดีขึ้น
สำหรับหลายๆคนแล้ว ตำแหน่งฟันและขากรรไกรที่ไม่เหมาะสมนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวการพูดและการเคี้ยวอาหารได้ เราจึงแนะนำการจัดฟันแบบใสไร้เหล็กซึ่งจะสามารถทำให้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้เช่นกัน

ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บและผิดปกติของการสวมใส่
ตำแหน่งของฟันที่ถูกต้องและเหมาะสมจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะกระดูกและข้อต่อเชื่อมขากรรไกร รองรับน้ำหนักมากเกินไป

ขั้นตอนการนัด
เริ่มต้นง่ายๆเหมือนเวลาที่คุณตัดสินใจจะไปดูหนังสักเรื่อง เพียงแค่คุณคิดว่าคุณอยากจะครอบครองรอยยิ้ม ที่สวยงาม จากนั้น ที่เหลือก็จะเป็นหน้าที่ของเราเอง...

ขั้นตอนที่ 1
ทำการนัดพบก่อน และเมื่อคุณมาพบกับเราครั้งแรก แพทย์จัดฟันจะช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษา และหลังจากนั้น คุณจะได้ทำแบบพิมพ์ปากเพื่อนำเอาไปทำเครื่องมือจัดฟันแบบใส

ขั้นตอนที่ 2
ทางสมิติเวชจะใช้เทคโนโลยีโปรแกรมการสร้างภาพสามมิติ เปลี่ยนจากรูปแบบพิมพ์ปากของคนไข้ให้เป็นชุดภาพแสดงวิธีการรักษาตามลำดับที่มีการกำหนดไว้ และจะจัดทำเครื่องมือจัดฟันแบบใสขึ้นมาเป็นชุด อาจมีถึง 48 ชุด หรืออาจมีเพียง 12 ชุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาของแต่ละคนไข้ที่แพทย์จัดฟันเป็นผู้กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3
ครั้งต่อมาที่คุณมาพบเรา คุณจะได้รับเครื่องมือจัดฟันแบบใสชุดแรก และเราจะเตรียมเครื่องมือจัดฟันแบบใสชุดอื่นๆให้กับคุณในครั้งต่อไป

ขั้นตอนที่ 4
คุณต้องใส่เครื่องมือจัดฟันทุกวัน และแต่ละชุดให้ใส่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สามารถถอดออกได้เฉพาะเวลารับประทานอาหาร แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น ระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 9-15 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม คุณควรเข้ามาพบแพทย์จัดฟันทุกๆ 6 สัปดาห์ เพื่อดูความคืบหน้าของการรักษาให้เป็นไปตามกระบวนการที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 5

ขอแสดงความยินดี !! กระบวนการจัดฟันแบบใสได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณต้องใส่เครื่องคงสภาพฟัน (Retainer) เพื่อคงรักษารูปแบบฟันเอาไว้ไม่ให้มีการเคลื่อนออกเปลี่ยนทิศทางจากเดิมที่จัดเรียบร้อยแล้ว

หลักการทำงานของการจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก

เมื่อก่อนนี้เราจะเห็นได้ว่า การจัดฟันแบบเหล็กทั่วไปนั้น มีประสิทธิภาพทำให้ฟันตรงและเรียงตัวกันอย่างสวยงาม โดยการใช้เหล็กเป็นตัวบีบฟันเพื่อให้ฟันจัดเรียงกันและมีการเปลี่ยน bracket  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาด้วย  แต่ปัจจุบันนี้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ “การจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก”  ซึ่งให้ประสิทธิภาพแบบเดียวกันกับการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป จะทำให้คุณรู้สึกถึงความแตกต่าง และไม่เหมือนใครในขณะที่คุณจัดฟันอยู่  ด้วยวิธีที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนของการจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก  เริ่มต้นด้วยการจัดทำเครื่องมือจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้ และทำขึ้นเป็นของแต่ละบุคคลเพื่อให้พอดีกับฟันของคนไข้  และเครื่องมือนั้นจะทำหน้าที่ควบคุมแรงกดดันของฟัน เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่แพทย์จัดฟันกำหนดไว้ โดยแพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ออกแบบโปรแกรมภาพสามมิติ แสดงภาพของการเคลื่อนที่ของฟันแต่ละขั้นตอนจากแรกเริ่มของการทำงาน ไปจนกระทั่งฟันเรียงตัวกันออกมาอย่างสวยงาม  และเครื่องมือจัดฟันแบบใสนั้นจะทำงานตามขึ้นตอนต่างๆ ดังภาพสามมิติที่แสดงไว้  โดยเครื่องมือจัดฟันแต่ละชุดจะมีการกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามทิศทางนั้นๆ  หลักการทำงานจะคล้ายกับการการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป  แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ การทำงานของเครื่องมือจัดฟันจะถูกควบคุมให้ทำงานไปพร้อมๆ กับระยะเวลาทที่กำหนดไว้ตามแต่ละขั้นตอน  ซึ่งทำให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ตามวิธีการที่แพทย์จัดฟันกำหนดไว้แล้ว  ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการทำงานเป็นไปตามระบบด้วย

นอกจากนี้ ทุกๆ 2 สัปดาห์ คุณจะได้รับเครื่องมือจัดฟันแบบใสชุดใหม่เพื่อเปลี่ยนให้เป็นตามขั้นตอนต่างๆ   และด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบใสจะทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบาย และไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า คุณกำลังจัดฟันอยู่ในขณะที่คุณสวมใส่เครื่องมือจัดฟันแบบนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที แผนกทันตกรรม  ชั้น 3 รพ. สมิติเวช ศรีนครินทร์ 0-2378-9121

Hot in the city


ในยุคข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีล้ำหน้าอย่างในปัจจุบัน ไม่ว่าอะไรๆ ก็จะต้องดูล้ำๆกันทั้งนั้น แม้กระทั่งพัฒนาการของเด็กในปัจจุบัน จะเห็นว่าล้ำหน้ากว่าเมื่อก่อนมาก สามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วขึ้น แต่เด็กจะมีพัฒนาการที่ดี สมวัย และสุขภาพแข็งแรงได้อย่างไรอยู่ที่ความเอาใจใส่ของพ่อแม่และผู้ปกครองเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งอาหารการกิน ตลอดจนการรักษาพยาบาลและการป้องกันโรคต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่พ่อแม่ควรศึกษา ยิ่งรู้มาก ยิ่งได้กำไร และป้องกันได้ง่ายขึ้น ไอเกิล มีกิจกรรมดีๆ มาฝากกันค่ะ

 แฟมิลี เฮลท์ แฟร์ 2012 Let’s Get Fit With Samitivej”  เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ
รพ.สมิติเวช จัดงานมหกรรมสุขภาพเพียงปีละครั้งที่นำสาระด้านสุขภาพ นวัตกรรมความก้าวหน้าด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาล พร้อมความบันเทิงมากมายเอาใจผู้ใช้บริการ ที่ The Nine พระราม 9 เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารจาก รพ.สมิติเวช และ Partner ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เช่น นพ.วีระ อัศวิศราภรณ์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, คุณณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ กรรมการผู้จัดการ บ.เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด, นพ. ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ผอ.รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, คุณปรเมศวร์ พรหมบุรี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจลูกค้าบุคคล ธ.กสิกรไทย, คุณปิย สมุทรโคจร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ รพ.สมิติเวช
มาพร้อมเทคโนโลยีและกิจกรรมบนเวทีที่น่าสนใจมากมาย เช่น
-          สมิติเวชโชว์ เครือข่ายของ Robo Doctor เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยวินิจฉัยโรคเร่งด่วนหรือ
คนไข้ฉุกเฉิน เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ไว้คอยรับมือตลอด 24 ชม.
-           นพ.พีระพัศฆ์ รุจิวิชชญ์  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรี
นครินทร์ และ คุณวรภัทร เวชภูติ โค้ชฟุตซอล ทีมชาติไทย พูดคุยเรื่อง “ฟิต & เฟิร์ม..เพิ่มประสิทธิภาพ”
-           พญ.วัชราภรณ์ วีรกุล สูติ-นรีแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
รักษาผู้มีบุตรยากและสตรีวัยทอง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ความรู้เรื่อง “มีลูกอย่างไร ให้ทันปีมังกร”
-          นพ.วสุ กำชัยเสถียร กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกัน รพ.
สมิติเวช ศรีนครินทร์ ในความรู้เรื่อง “กินอยู่อย่างไรไม่ให้แพ้ ..กับภูมิแพ้ของลูกน้อย”
-          สนุกสนานกับคอนเสิร์ตจาก “เบล สุพล” “ว่าน ธนกฤต” และ “สินเจริญ บราเธอร์ส”

แสนล้านเซลล์สมอง…พัฒนาสู่มหัศจรรย์การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
พัฒนาการของเด็กจะเร็วหรือช้า การเลี้ยงดูและความเอาใจใส่ของคุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ไม่เคยหยุดนี่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อยของคุณ วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555 เวลา 8.30 – 12.00  ได้จัดกิจกรรมสัมมนา ให้ความรู้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ในหัวข้อ “แสนล้านเซลล์สมอง…พัฒนาสู่มหัศจรรย์การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด” พร้อมกิจกรรม Workshop “Brain fit” และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนพอมีเวลา เชิญมาร่วมงานกันได้นะคะ ได้ความรู้แล้วยังมีของติดไม้ติดมือกลับไปฝากลูกน้อยด้วยล่ะค่ะ

หน้าร้อนแบบนี้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ โดนแดดประเดี๋ยวเดียวยังรู้สึกว่าผิวแทบจะไหม้ แล้วผิวอันบอบบางของเด็กๆ จะไปทนไหวได้อย่างไร ผลิตภัณฑ์กันแดด จึงถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับเด็ก
ลา โรช-โพเซย์ งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
ลา โรช-โพเซย์ เวชสำอางชั้นนำจากฝรั่งเศส หนึ่งในแบรนด์ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกไว้วางใจและเลือกใช้สำหรับฟื้นฟูบำรุงผิว ได้จัดงานเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์กันแดดที่ขายดีอันดับ 1 ในชุด แอนเทลิโอส (ANTHELIOS) และ ยูวีเดีย (UVIDEA) ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย โดยภายในงาน ลา โรช-โพเซย์ ได้นำเสนอถึงความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์กันแดดที่ให้การปกป้องผิวจากรังสี UVB/UVA ได้สูง สูตรอ่อนโยน สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคน “ทั้งเด็กและผู้ใหญ่” และทุกสภาพผิว รวมถึงนวัตกรรม MEXOPLEX® รูปแบบสารกรองแสงใหม่ ลิขสิทธิ์เฉพาะของลา โรช-โพเซย์ ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดาแพทย์ผิวหนังทั่วประเทศ และผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาปัญหาผิวได้ที่เคาน์เตอร์ ลา โรช-โพเซย์ ในโรงพยาบาล และร้านขายยาชั้นนำ
ทั่วประเทศ หรือติดต่อ ศูนย์ปรึกษาปัญหาผิวพรรณ ลา โรช-โพเซย์ โทร. 0-2684-3292 หรือเว็บไซต์ www.larocheposay-th.com และ Facebook : http://www.facebook.com/LaRochePosayThailand

“การรักษาด้วยโปรตอนบำบัดที่ศูนย์วิจัยการรักษาด้วยโปรตรอนเมดิโพลิสและประสบการณ์ทางคลินิคของศูนย์”

การรักษาทางการแพทย์ เป็นสิ่งหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง Emergency Assistance Japan (Thailand) เป็นหน่วยงานที่ได้รับอำนาจเกี่ยวกับการจัดการออกเอกสารประกอบการขอวีซ่าบำบัดรักษาโรคระยะสั้นและระยะยาว แห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อบริการประสานงานการรักษาบำบัดโรคมะเร็ง ณ ประเทศญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “อนุภาคบำบัด”
ได้จัด “satellite seminar”  ขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์การรักษาขั้นสูง ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้เชิญ นายแพทย์ทาคาชิ โอกิโน ประธานองค์กรแพทย์ สถาบัน Medipolis Proton Beam Therapy and Research Center, Ibusuki, Kagoshima, Japan มาเสนอในหัวข้อ “การรักษาด้วยโปรตอนบำบัดที่ศูนย์วิจัยการรักษาด้วยโปรตรอนเมดิโพลิสและประสบการณ์ทางคลินิคของศูนย์” Proton Beam Therapy at  Medipolis Proton Therapy and Research Center, and Overview of Clinical Experience.
เมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดวิธีรักษาได้ที่ บริษัท emergency assistance Japan (Thailand) จำกัด โทร 02-665-7280 ต่อสายการแพทย์ต่างประเทศ หรืออีเมลล์ EJT-MEJ@emergency.co.jp

ชม ชิม แชะ ที่สุราษฎร์ธานี


เวลาพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในภาคใต้ ทุกคนจะคิดถึง ภูเก็ต สมุย กระบี่ สงขลา แต่น้อยคนนักที่จะคิดถึงสุราษฎร์ธานี ทั้งๆ ที่เป็น gateway สู่สถานที่ท่องเที่ยวงามๆ ที่ทุกคนชื่นชอบ น่าน้อยใจจริง
แต่ของเขาดี ยังไงก็ต้องให้คนได้รับรู้ เผอิญเดือนที่แล้วผมรู้สึกโก้ไม่เบาที่ได้รับเชิญจากท่านรองนายกเทศมนตรี เมืองสุราษฎร์ คุณเอกพจน์ ยอดพินิจ หรือท่านรองหนุ่มให้ไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว ของเมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ โน่นละครับ
คุณหนุ่มเป็นคนบอกผมเองว่าขอเชิญมา “ชม ชิม แชะ” กันหน่อย ผมก็ตกปากรับคำทันที รีบจองนกแอร์เจ้าประจำด่วน ช่วงนี้โปรโมชั่นด้วย แถมขึ้นที่ดอนเมือง สบายๆ เดินไม่ไกล ไม่ต้องวิ่งจนเข่าหลุดเครื่องออก 7 โมงครึ่ง ไปถึงก็ 8 โมงครึ่ง กำลังได้เวลาอาหารเช้าเลยครับ ทีมงานคุณหนุ่มมารอรับพวกเราอย่างดี แล้วพาไป “ชิม” ก่อนเลยครับ ผมก็กำลังหลับๆ ตื่นๆ บนเครื่อง มาถึงก็ยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย แล้วเดินทางไปรับประทานอาหารเช้าเลยทันที ที่ร้านกาแฟโบราณ “ป้าศรี” อยู่ซอยเซ็นเตอร์พอยท์ ถ.สุรีย์โชค ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชื่อซอยก็กินขาดแล้วครับ วัยรุ่นชัดๆ แต่คุณป้าเจ้าของร้านยังconservative อยู่ครับ
เราเริ่มกันที่ “ปาท่องโก๋ สังขยาอัญชัน”เรียกนํ้าย่อยก่อน สำหรับปาท่องโก๋ที่นี่ เนื้อเหนียวนุ่มใช้ได้ทีเดียว สังขยาก็เข้มข้น หวานมัน มีกลิ่นและสีของดอกอัญชันพอประมาณ รับประทานกับกาแฟโบราณหวานมัน ช่วยให้ตาสว่างได้ดีทีเดียว เสร็จแล้วผมตบด้วยข้าวต้มกระดูกหมู ข้าวเป็นข้าวกล้องหนุบหนับ
อยู่ในนํ้าซุปเข้มข้น รสชาด กำลังดี แค่นี้ผมก็ตาสว่าง เตรียมลุยได้เต็มที่แล้วล่ะครับ เสร็จสรรพทีมงานพาผมไปเช็คอินที่โรงแรมวังใต้ โรงแรมเก่าแก่ของสุราษฎร์ที่หลายท่านต้องรู้จักกันดี ผมเคยมาพักที่วังใต้2-3 ครั้งแล้ว จำได้ว่าขนมเปียกปูนและถั่วแปบ ของเขาอร่อยเหนียวนุ่มอร่อยได้ใจจริงๆ ครับ คิดว่าต้องลองพิสูจน์ดูสิว่ายังเหมือนเดิมไหม พอดีคุณหนุ่มมาต้อนรับที่โรงแรมและชวนทานอาหารว่างเล็กๆ ผมเลยได้พิสูจน์ด้วยตัวเองอีกครั้งว่า “ของเขาดีจริงๆ”
ระหว่างรับประทานของว่างกรุบกริบอยู่นั้น คุณหนุ่มก็อธิบายว่าจะพาเราไปไหนกันบ้าง ไอ้ผมมันก็นิสัยเสีย ภูมิศาสตร์ไม่แม่น ประวัติศาสตร์ก็หลงลืมตามอายุ คุณหนุ่มพูดอะไรมาได้แต่อือๆ แกเลยต้องเอาแผนที่มากางให้ดูเลยถึงบางอ้อไปตามๆ กันความจริงก็คือ จังหวัดสุราษฎร์ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้ แต่เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ ภูมิประเทศมีทั้งป่าดิบชื้นอันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณ ไปจนถึงแนวเทือกเขาสูงที่ลาดลงมาสู่ที่ราบตอนกลางเรื่อยไปจนถึงชายฝั่งไล่ลงไปในทะเลมีเกาะและหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกาะสมุย เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า เกาะนางยวน เยอะแยะไปหมดครับ แต่เวลาใครจะไปเที่ยวสถานที่ๆ สวยงามเหล่านั้น ก็จะพุ่งตรงไปที่เที่ยวเลย นอกจากมาถึงดึก นอนพักปุ๊บ ตื่นมาก็กระเด้งไปเที่ยวต่อเลยไม่เคยจะหยุดพักและ say hello กับแสงสีเสียงของตัวเมืองกันเท่าไหร่
คำว่า สุราษฎร์ธานี ซึ่งแปลว่าเมืองแห่งคนดี เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เลยทีเดียวล่ะครับ คนท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรปลูกปาล์มนํ้ามัน ยางพารา และมะพร้าว แต่ที่แน่ๆ เมืองคนดีนี่เป็นต้นกำเนิดของเงาะโรงเรียนที่รสชาติดีที่สุดของประเทศเลยทีเดียวเชียวล่ะครับ ผมก็ทะลึ่งไปก่อนเวลาเลยอดรับประทานเงาะโรงเรียนของแท้ไปซะฉิบเลย
ว่ากันว่า “เงาะโรงเรียน” พันธุ์แท้และดั้งเดิมนี่มาจากมาเลเซียนะครับ คุณเค หว่อง เป็นคนจีนเชื้อสายมาเลย์ นำเอาเมล็ดมาปลูกตอนที่แกมาทำเหมืองแร่ดีบุกเมื่อปี พ.ศ.2469 โน่นล่ะครับ แกปลูกไว้หลายต้นทีเดียว ผมสงสัยว่าแกคงไม่ได้รับประทานกี่มากน้อยแค่ไหน เพราะกว่าจะโตกว่าจะได้เวลาออกดอกออกผล คุณเคก็ย้ายกลับไปปีนังแล้วล่ะครับ เงาะนี่เท่าที่รู้ต้องมี 5-6 ปี เชียวล่ะครับกว่าจะมีลูกให้ได้ชิมถ้าปลูกจากเมล็ด คุณเคแกอยู่ประเทศไทยประมาณ 10 ปี คงทำแร่ดีบุกไม่ค่อยได้ผลพอย้ายกลับก็ขายที่ๆ บ้านที่มีต้นเงาะให้กับกระทรวงศึกษาธิการ ตอนนั้นยังเป็นกระทรวงธรรมการอยู่เลยครับ กระทรวงก็ปรับปรุงบ้านคุณเคให้เป็นโรงเรียน แล้วย้ายโรงเรียนนาสารจากวัดนาสารมาอยู่ที่นี่ซะเลย คงเพราะปลูกอยู่ในบริเวณโรงเรียนนั่นล่ะครับถึงได้ชื่อว่า “เงาะโรงเรียน” สงสัยจริงๆ ว่าชื่อเต็มอาจจะเป็น “เงาะโรงเรียนวัดนาสาร” ก็ได้นะครับ

พอเงาะโรงเรียนเริ่มแพร่หลายมีการเอาไปปลูกที่นั่นที่นี่ ก็กลายพันธุ์ไปเยอะครับ ไม่รู้เอาไปทาบกิ่งผสมพันธุ์กันอีท่าไหน ถ้าให้ชัวร์ๆ ต้องดูที่ลักษณะเด่นของเงาะโรงเรียนครับ คือ เมื่อสุกแล้วเปลือกมีสีแดงแต่ปลายขนยังคงมีสีเขียวอยู่ รูปร่างผลกลมรีเล็กน้อย เปลือกบาง เนื้อหนา รสหวานหอม กรอบและล่อน
อย่างนี่ล่ะครับเงาะโรงเรียนของแท้ ทุกปีจะมีการจัดงาน “วันเงาะโรงเรียน” ในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม เพื่อตอกยํ้าความเป็นต้นตำรับครับ ผมว่าจะไม่ประวัติศาสตร์มากแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ เพราะผมว่าคงมีหลายคนที่เคยรู้เรื่อง “เงาะโรงเรียน” บ้าง แต่อาจจะลืมๆ เลือนๆ กันไปเลยเอามาช่วยเตือนความจำพอหอมปากหอมคอขำๆ กันครับ
เอาล่ะครับไหนเราก็อยู่ในอารมณ์อร่อยแล้ว เราไปชิมกันต่อนะครับ คุณหนุ่มพาเรามาทานกลางวันกันที่ร้าน “เรือนไทย” บอกว่าซีฟู๊ดเขาสุดยอด ไอ้ผมก็นึกว่าคงได้บรรยากาศริมทะเลอะไรก็ว่าไป เปล่าเลยครับร้าน “เรือนไทย” อยู่ที่ถนนสายปากแม่นํ้าตาปี ไม่ติดนํ้า แต่เจ๋งมากครับ อาหารแต่ละจานเหนือคำบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเผาที่มีมันกุ้งสีส้มแดง เห็นแล้วตัวใครตัวมันห้ามแบ่ง ห้ามแย่ง เด็ดขาด!
ตามมาติดๆ คือ ปลาเผาพร้อมนํ้าจิ้มพื้นเมืองรสเลิศ หอยแคลงตัวเบิ้ม หอยตลับหม้อไฟ ปูทะเลสดจริง หอยนางรมไม่ต้องพูดถึงนะครับ หวานกรอบจนไม่กลัวคอเลสเตอรอลเลยล่ะครับ ยิ่งทานกับกระถิน กระเทียม บีบมะนาวด้วยแล้ว รีบบินมาด่วนเลยครับ
คุณหนุ่มนี่นอกจากจะเป็นนักปกครองแล้ว พื้นเพยังเป็นนักวิทยาศาสตร์อีกนะครับ แกอธิบายละเอียดครับว่าพวก หอย กุ้ง ปู หรือ Shell Fish นี่ เป็นสัตว์นํ้าในตระกูล crustaceans มีแบคทีเรียเยอะแยะไปหมด ต้องนำมาประกอบอาหารตอนสดๆ ไม่งั้นแบคทีเรียออกฤทธิ์กินความอร่อยของเนื้อไปหมด เห็นภาพและรับทราบด้วยประสบการณ์ทันที คุณหนุ่มยืนยันครับวัตถุดิบด้านแหล่งอาหารทะเลของสุราษฎร์นี่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มากเลยล่ะครับ แกบอกว่าตั้งใจที่จะปั้นการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็น “ซีฟู้ด ซิตี้” เลยทีเดียวครับ
แต่อาหารไม่ใช่สิ่งเดียวที่เด่นของสุราษฎร์นะครับ เราชิมกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ลองไปชม กับแชะ ถ่ายภาพกันดีกว่าครับ แต่คงต้องเป็นฉบับหน้าแล้วล่ะครับ อดใจรอนะครับ อู้ อ้า ไม่แพ้อาหารเลยล่ะครับ

Attck Asthma Before It Attacks


Picture this scenario: One day, your child is running around happily and then he started coughing and breathing heavily by bed time. He may have trouble breathing during the night or may wake up coughing periodically. After a restless night, he may be cranky in the morning. If this ever happens, it may be signs of asthma.
Dr. Wasu Kamchaisatian, a specialist in pediatric allergy and immunology at Samitivej Srinakarin Hospital advised us that asthma is a type of allergy that occurs in the lower respiratory tracts which begin from the trachea all the way to the bronchioles. Children of all ages and gender can develop asthma, which although is not a contagious disease, can be hereditary. Furthermore, people who never had asthma can develop symptoms if they are in the wrong environment.

Asthma can be brought on by changes in the environment such as climate changes. The cold temperature in an air-conditioned room does not increase the risk of asthma, but if the air filter is not regularly cleaned, there may be spores or dusts that can provoke and asthma attack. Stimulants of asthma include house dusts, cockroaches, dandruffs from dogs and cats, pollens, or fungi from around the house. Because the lower respiratory tracts in people with asthma are susceptible to contraction when stimulated, exercise no matter how much or just a bit, can cause an onset.
Other than coughing, other signs of asthma include chest pain, trouble breathing, or wheezing. To be cautious, watch for these signs in both children and adults alike. If you notice that someone is coughing all night and has other signs of allergy, it may be that he/she is suffering from acute asthma attack. An inhaler can be used to relief the symptom. However, if a child has never used an inhaler before, he/she should be taken to the hospital immediately to avoid acute asthma attack, which may lead to lack of oxygen and respiratory failure.
Epidemiological studies in Thailand since 1985 have shown that the prevalence of asthma increased from 5% to 15% in the past 10 years, especially in the Bangkok area. Asthma and respiratory infection can be quite similar in symptom, although the pathology is different. To confirm the diagnosis of asthma, if there is no family history, a lung function test may be performed to measure the lung capacity. Another good indication is the effectiveness of an inhaler.
Dr. Wasu explained that because asthma is brought on by inflammation of the lung passages, the use of steroid-containing inhalers will help widenthese passages. If they are used properly, patients can safely use them without any side-effects and they are more effective than taking leukotrienes, which is an alternative choice for patients who cannot use inhalers.
Although asthma is a chronic disease, it can be controlled if treated properly. Untreated asthma can lead to decreased lung function and chronic bronchitis. Dr. Wasu recommended that children should get flu shots to prevent asthma attack as well.

exercise during pregnancy


จะทำอย่างไรให้มีสุขภาพครรภ์ที่ดี
การออกกำลังกายเป็นทางออกอย่างหนึ่ง หลายคนอาจจะสงสัยว่าการออกกำลังกายขณะออกกำลังกายจะปลอดภัยหรือไม่ ก่อนอื่นคงต้องปรึกษากับสูตินรีแพทย์ที่ฝากครรภ์ก่อนว่า ถึงแม้ว่าจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับผลของการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่มีผลเสียจากการออกกำลังกาย ยังไม่มีการวิัจัยที่บอกว่าจะทำให้ทารกแข็งแรงขึ้น แต่สำหรับคุณแม่แล้วจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีมาก การออกกำลังกายยังช่วยทำให้บรรเทาอาการต่าง ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ และยังเป็นการเตรียมสำหรับการคลอดด้วยจากการที่เพิ่มความแข็งแรงและกล้ามเนื้อดีขึ้น ถ้าคุณไม่มีโรคประจำตัว และไม่มีการแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ็ ก็ควรจะวางแผนการออกกำลังกายด้วย

จะเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายได้อย่า่งไร

การปรึกษาแพทย์เป็นเรื่องแรกที่ต้องทำ เพราะความผิดปกติบางอย่างจะมีข้อห้ามในการออกกำลังกายเพราะอาจมีความเสี่ยงกับทารก ถ้าแพทย์อนุญาต คุณสามารถเริ่มออกกำลังกายได้ ในระดับที่ไม่มีอาการเจ็บ ไม่ถึงกับหอบเหนื่อยหายใจไม่ทัน หรือเหนื่อยมากเกินไป การเิริ่มออกกำลังกายต้องเริ่มอย่างช้าๆ ทีละน้อย ถ้าเริ่มมีอาการผิดปกติเช่น เหนื่อยกว่าปกติ หายใจไม่ทัน คุณควรจะต้องออกกำลังกายให้เบาลง ถ้าคุุณเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว มันก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะออกกำลังกายในขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มต้นออกกำลังกายช้ำ ๆ

แล้วคนตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายอย่างไหนดี

การออกกำลังกายที่เหมาะสม คือการออกกำลังกายที่ร่างกายไม่ต้องรับน้ำหนักของร่างกาย เช่น การว่ายน้ำ ส่วนการเดิน หรือการออกกำลังกายชนิดแอโรบิกเบา ๆ (low-impact aerobics) ก็เป็นอีกทางเลือก

ควรจะต้องระวังอะไรสำหรับการออกกำลังกาย

กิจกรรมต่าง ๆ ที่จะทำให้เสี่ยงในการพลัดตกหกล้ม หรือการบาดเจ็บ เช่น กีฬาที่อาจมีการปะทะ หรือ กีฬาที่เล่นหนักมาก ควรจะต้องหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บที่ไม่รุนแรงหรือการกระทบกระแทกแม้จะเป็นตำแหน่งท้องส่วนบนเช่นส่วนที่ตรงกัีบกระเพาะก็ยังมีอันตรายต่อครรภ์ได้ หลังจากที่ตั้งครรภ์เกินกว่าสามเดือนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการออกกำลังกายในท่านอน เพราะว่าน้ำหนักของท่าทารกจะรบกวนการไหลเวียนเลือด ท่ายืนที่นานเกินไปก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงด้วย
ถ้าอากาศร้อนเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย โดยไปออกกำลังกายในช่วงเช้า หรือตอนเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนมากเิกินไปหรือเสียเหงื่อมากเกินไป ถ้าออกกำลังกายในร่ม ควรจะต้องดูเรื่องการหมุนเวียนอากาศที่เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากพอ ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้สึกหิวน้ำก็ควรจิบน้ำบ่อย ๆ

เรื่องของอาหารก็เป็นเรื่องที่ต้องควบคุมให้เหมาะสม โดยปกติในขณะตั้งครรภ์ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 300 แคลอรีต่อวัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย

อาการที่ควรปรึกษาแพทย์
มีเลือดหรือมีน้ำออกมาทางช่องคลอด
มีอาการปวดท้องรุนแรง หรือปวดช่องคลอด
มีการบีบตัวsหรือเกร็งของมดลูกเกินกว่า 30 นาที
เจ็บหน้าอก
หอบเหนี่อย หายใจไม่ทัน
ปวดหัวรุนแรง หรือปวดติดต่อกันนาน
มึนงงเวียนหัว คลื่นไส้
ตามัว มองเห็นไม่ัชัด

ลองเริ่มต้นวางแผนการออกกำลังกายโดยปรึกษาสูตินรีแพทย์ของคุณนะครับ

จาำก www.facebook/drcarebear

ย้อนเวลาให้ผิวแก่แดดแก่ลม













ความแก่เป็นศัตรูที่แฝงตัวมาในหลายรูปแบบ บางคนก็ถูกโจมตีด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น บางคนก็หน้าบอกอายุจากความหย่อนคล้อย แต่บางคน หน้าก็ตึงกระชับ ริ้วรอยก็ไม่ค่อยมี แต่กลับมีจุดด่างดำ ตกกระ รอยหมองคล้ำต่างๆบ่งวัยเต็มใบหน้า กลุ่มผู้ที่เม็ดสีขยันทำงานเกินกว่าเหตุนี้ มักมาจากหลายสาเหตุประกอบกัน

แต่สาเหตุหลักเลยคือการถูกทำลายสะสมจากรังสียูวีในแสงแดด แต่ปัจจัยอื่นๆ เช่น ฮอร์โมน ทั้งจากฮอร์โมนเพศหญิงที่มีอยู่แล้วในร่างกาย และมักจะมีระดับที่สูงขึ้นขณะตั้งครรภ์ ฮอร์โมนสังเคราะห์จากยาคุมกำเนิด กรรมพันธุ์ ปฏิกริยาไกลเคชั่นจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมไปถึงความร้อนจากการซาวน่า ก็ล้วนแต่เป็นปัจจัยร่วมที่ก่อให้เกิดความผิดปกติ ของเม็ดสีบนใบหน้าทั้งสิ้น
กายวิภาคความแก่ที่ส่งผลให้เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างบนใบหน้า อาจจำแนกได้ง่ายๆเป็นดังนี้

กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) 
เป็นตุ่มเนื้อ นูนขึ้นมาจากผิวหนัง หากเม็ดใหญ่จะเห็นลักษณะขรุขระเล็กน้อยที่ผิวด้านบน มักมีสีเฉดน้ำตาล ในวัยสาว อาจเริ่มมีจุดเล็กๆ สีอ่อน ซ่อนอยู่ตามหนังตา โหนกแก้ม สาเหตุที่เกิดขึ้นคือ อายุ จะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับกรรมพันธุ์ ไม่สามารถป้องกันได้ แต่ก็รักษาได้ไม่ยาก วิธีที่ได้ผลเป็นที่นิยมกันในปัจจุบันคือ การจี้ออกด้วยเลเซอร์ในกลุ่มคาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (CO2 laser) โดยจี้เพียงครั้งเดียวก็หาย หลังจี้จะเป็นสะเก็ดบางๆ คล้ายรอยถลอกอยู่ 3-7 วัน ขึ้นกับความลึกของกระเนื้อ หายแล้วมักไม่เหลือรอยแผลเป็น

กระตื้นและกระลึก
กระตื้น  แบ่งออกเป็นกระที่เรียกว่า Freckles ซึ่งมักจะปรากฏให้เห็นตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยสาว คนที่มีผิวขาวจัด จะมีกระเป็นของแถมบนใบหน้าด้วยเสมอ และมักจะสีเข้มขึ้นในช่วงฤดูร้อน และจางลงในช่วงฤดูหนาวที่ไม่ค่อยโดนแดด ส่วนกระตื้นอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Solar Lentigo (Lentigo = จุดดำ, Solar = แสงแดด) พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการกระตุ้นโดยแสงแดด มักเริ่มปรากฏในวัยยี่สิบตอนปลาย เป็นการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีที่บ่งอายุรูปแบบหนึ่ง พบมากบริเวณโหนกแก้ม หลังมือ แขนด้านที่ถูกแสงแดด การรักษากระตื้นที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันคือ การใช้เลเซอร์หรือแสงความเข้มสูงIPL ในช่วงความยาวคลื่นที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสี ทำให้เม็ดสีดูดซับความร้อน และตกเป็นสะเก็ดดำเข้มขึ้นแล้วหลุดออกมา โดยรักษาซ้ำมากน้อยขึ้นกับความลึกของเม็ดสี

ส่วนกระลึก มีลักษณะเป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาลปนเทาบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง มักเริ่มปรากฏในวัยประมาณ 30 ปี มีชื่อเป็นทางการที่แพทย์เรียกกันว่า Hori’s macules (โฮริ) มีสาเหตุจากกรรมพันธุ์มากกว่าแสงแดด เป็นกระที่รักษายาก ต้องใช้การยิงเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสีซ้ำหลายครั้ง (โดยเฉลี่ย 3-5 ครั้ง ห่างกันทุก 6-10 สัปดาห์) กว่าจะหาย และเมื่อหายแล้วก็ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการกลับขึ้นมาเป็นซ้ำอีกด้วย

ฝ้า (Melasma/Mask of Pregnancy) 
บ่อยครั้งที่ฝ้าจะปรากฏตัวมาทักทายหญิงสาวขณะตั้งครรภ์ แต่ปัญหาคือ ฝ้ามักจะมาทักทายแล้วไม่ยอมโบกมือลา หลังคลอดก็แล้ว ให้นมเลี้ยงลูกจนโตก็แล้ว ส่งเสียลูกเข้ามหาวิทยาลัย หรือเป็นฝั่งเป็นฝาย้ายออกจากบ้านไปแล้ว ฝ้าก็ยังคงอยู่กับคุณดั่งหน้ากากติดแน่นตลอดไป เช่นเดียวกับโรคผิวหนังอีกมากมาย ฝ้าเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน ทั้งกรรมพันธุ์ แสงแดด และฮอร์โมน ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่มีส่วนสำคัญต่อการเกิดฝ้า ฝ้าต่างจากกระคือ ฝ้ามีลักษณะเป็นปื้นคล้ายถูกระบายสีน้ำเป็นพื้นหลัง แต่กระมีลักษณะเป็นจุด คล้ายถูกแต้มด้วยปากกาเมจิก สีของฝ้านั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคนขึ้นกับความลึกในการฝังตัวของเม็ดสี

การรักษาฝ้าโดยพื้นฐานมีอยู่สามขั้นด้วยกัน คือ 
•    หาสาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า หลีกเลี่ยงความร้อนที่มากระตุ้น ฮอร์โมน หรือยาคุม โดยปรึกษาแพทย์ว่าสามารถเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นคุมกำเนิดได้หรือไม่
•    ทายาที่ใช้สำหรับรักษาฝ้า ซึ่งมีทั้งแบบที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป และแบบที่แพทย์ผิวหนังสั่งจ่าย หากซื้อเอง ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่า เป็นยาที่ผ่านการตรวจสอบจากอ.ย.แล้วเท่านั้น เพราะอาจเกิดอันตรายต่อผิวหรือเกิดเป็นฝ้าถาวรได้
•    การใช้เทคโนโลยีต่างๆทางการแพทย์เพื่อรักษาฝ้า ได้แก่ กลุ่มที่ใช้หลักการผลัดเซลล์ผิว โดยอาจใช้เป็นกรดอ่อนๆ หรือ พลังน้ำผลัดเซลล์ผิว กลุ่มที่ใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้เกิดการผลักยาฝ้าเข้าสู่ผิวหนัง เช่น ไอออนโตโฟเรซิส อิเลคโตรโพเรชั่น และกลุ่มสุดท้ายคือ ใช้เลเซอร์ที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อเม็ดสี ยิงให้เม็ดสีเข้มขึ้น และถูกเม็ดเลือดขาวเข้ามาเก็บกวาดเพื่อให้ฝ้าจางลง 

เทคโนโลยีที่กล่าวมานี้ ให้ผลดีในรายที่ฝ้าตื้น แต่หากฝ้าลึก ผลการรักษายังไม่แน่นอน แต่ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ ได้มีการพยายามนำเทคโนโลยีในกลุ่มเลเซอร์ปรับสภาพผิวแบบแยกส่วนมาใช้ในการรักษาฝ้า และพบว่าได้ผลดีพอสมควรในคนไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น โดยเฉพาะเลเซอร์ตัวแม่ในกลุ่มนี้คือ Fraxel® ได้ผ่านการอนุมัติจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา ให้เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาฝ้า

โดยสรุปแล้ว โซลูชั่นในการรักษาฝ้า ยังไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่หลักการเบื้องต้นที่คนเป็นฝ้าทุกคนควรปฏิบัติคือ หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และฮอร์โมนเพศจากภายนอก ทาครีมกันแดด และยารักษาฝ้าอย่างเคร่งครัด ส่วนการจะเลือกใช้เทคโนโลยีใด ก็ต้องแล้วแต่ลักษณะโหงวเฮ้งฝ้า และดุลยพินิจของแพทย์ผิวหนังของคุณ

แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร
แพทย์ผิวหนัง และ Anti-Aging
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ และ Life Center โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

Brightening หน้าใส ... อย่างเป็นธรรมชาติ

“ทำไมหน้าชั้นถึงหมองคล้ำ ไม่สดใสเหมือนคนอื่นเลย”  ถ้าหากคำถามนี้กำลังเกิดขึ้นกับคุณ ลองถามตัวเองสักนิดว่า ทุกวันนี้เราทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจดหรือไม่ เมื่อใช้โฟมล้างหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าอย่างเกลี้ยงเกลาหรือเปล่า ผิวโดนแดดอยู่สม่ำเสมอ  ทานอาหารไม่มีประโยชน์ ไม่ชอบออกกำลังกาย นอนน้อย ใช่ไหม? 

ผิวจะดูสดใส หากมีน้ำมันและสารที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของร่างกายอย่างพอเพียง ในผิวหนังของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 95 เปอร์เซ็นต์ หากผิวขาดน้ำ จะทำให้ผิวแห้ง และอาจมีการลอก แตก คัน และอักเสบ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายด้วย การดื่มน้ำมากๆ ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็น และเพื่อให้เกิดผล ควรทาครีมตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า ไม่ใช่เฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น และอย่าลืมเลือกครีมที่เหมาะกับผิว ปราศจากสีและกลิ่น เพื่อลดอัตราเสี่ยงของการแพ้และระคายเคืองด้วย

วิธีดูแลผิวหน้าให้สดใส 
สำหรับผู้หญิงทำงานอย่างเราๆ ทำได้ไม่ยาก เพียงทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกต้องเหมาะกับสภาพผิว และหากใช้เครื่องสำอาง ก็อย่าลืมใช้คลีนเซอร์ไม่ว่าจะเป็นแบบครีมหรือโลชั่นที่เหมาะกับสภาพผิวเช็ดออกก่อนล้างหน้า การนวดหน้าก็ช่วยให้หน้าใสได้เช่นกัน และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายด้วย แต่ควรนวดเพียงสัปดาห์ละ 1 -2 ครั้ง และไม่ควรเลือกยากินหรือยาทาเพื่อบำรุงผิวหน้าโดยไม่ปรึกษาแพทย์ 

นอกจากนี้ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง อย่าลืมทาครีมกันแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป  ถ้าเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. 

รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่หรือการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์  ที่จะไปขัดขวางการรับออกซิเจน ของเม็ดเลือด ทำให้เซลล์ผิวหนังไม่สามารถเจริญเติบโตและซ่อมแซมตัวเองได้ ส่วนเหล้า ไวน์ และเบียร์นั้น จะลดการดูด ซึมสารอาหารสำคัญ รวมทั้งวิตามินต่างๆ ทำให้ผิวไมได้รับอาหารอย่างเต็มที่  ถ้าอยากให้ผิวสวย ควรเลือกอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ อาหารประเภทโปรตีนอย่างเนื้อปลา นม ไข่ ถั่ว เต้าหู้ หรือโปรตีนจากผลไม้ที่มีกากใย ช่วยในการอุ้มน้ำและการขับถ่าย    

นอกจากการดื่มน้ำให้พอเพียง การหลีกเลี่ยงแสงแดด และการใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวสะอาดสดใส ควรออกกำลังเป็นประจำ เพราะขณะออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (ENDORPHIN) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้น ตามธรรมชาติ ช่วยให้เรามีความสุขและอารมณ์ดี ช่วยให้การไหลเวียนเลือดของร่างกายดีขึ้น เพิ่มการสูบฉีดเลือดและส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณก็สดใสตามไปอย่างแน่นอน 

แพทย์หญิงอรพรรณ เตชฤทธิพิทักษ์
แพทย์ผิวหนัง
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

การนอนกรน แค่น่ารำคาญ หรือ ภัยคุกคามที่ต้องระวัง

สาเหตุ เกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านลงสู่หลอดลม และปอด  ได้อย่างสะดวก

การนอนกรนมี 2 ประเภท
1. การนอนกรนธรรมดา
2. การนอนกรนที่มีการหยุดหายใจเข้าร่วมด้วย

การวินิจฉัย 
ทำเพื่อค้นหาตำแหน่งการอุดกั้นของทางเดินหายใจ  หากพบว่ามีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วย  แพทย์จะแนะนำให้ตรวจการนอนหลับ  หรือที่เรียกว่า Sleep Laboratory

“การนอนกรนและมีภาวะหยุดหายใจอาจส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพนะครับ”

นายแพทย์วรพงษ์ เวชวิชานิยม
ศัลยแพทย์ โสต ศอ นาสิก





มากกว่ารัก คือการที่เราได้ดูแลกัน

เป็นเรื่องน่าแปลกที่ใครๆก็ตื่นเต้นกับวันแห่งความรัก ที่กำลังเดินทางมาถึง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่หากถามว่าความรักคืออะไร กลับไม่มีใครให้คำนิยามที่ชัดเจนได้ บางคนบอกว่าความรักคือความผูกพัน ในขณะที่บางคนบอกว่า ความรักก็คือความรักไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่สำหรับผม ผมมั่นใจว่าทุกๆคนไม่อยากให้คนรักมีความทุกข์ ดังนั้นนอกเหนือจากการแสดงความรักด้วยคำพูด หรือด้วยการมอบดอกกุหลาบแล้ว การดูแลซึ่งกันและกัน ควรจะเป็นสิ่งที่เราทำมากที่สุดสำหรับคนรัก

โลกหมุนเปลี่ยนผ่านยุคสมัย ความรักยังคงอยู่ สำหรับบางคู่ ความรักนำไปสู่การสร้างครอบครัว ในขณะที่บางคู่ความรักนำไปสู่ความสัมพันธ์เพียงช่วงขณะหนึ่ง แต่ไม่ว่าความรักจะนำพาไปในทิศทางใด การดูแลกันและกันยังคงเป็นแก่นแท้ การจับคู่กันของคู่รัก ไม่ควรเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครจะต้องพบกับความทุกข์ แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เมื่อวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์พบว่า มีโรคหลายอย่างเป็นอุปสรรคอยู่ในความสัมพันธ์ดังกล่าว

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี การติดเชื้อไวรัสมะเร็งปากมดลูก(Human Pappilloma Virus, HPV) โรคหนองใน(Gonorrhoea) โรคซิฟิลิส(Syphilis)  โรคเหล่านี้มีความสามารถพิเศษที่สามารถแพร่จากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่ง และจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้เรื่อยๆ โดยอาศัยพาหนะที่ชื่อ ความรักและความใคร่ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีความยากในการรักษา และบางโรคไม่อาจจะรักษาให้หายได้ การป้องกันจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด นั่นคือการใช้ถุงยางอนามัย(condom)

“ความรักคือความไว้ใจ” จริงหรือที่ความรักจะทำให้เราต้องลดความระมัดระวังในการดูแลกัน แม้เราจะเชื่อใจคนที่เรารัก แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า เราเองจะไม่เป็นผู้นำโรคร้ายเหล่านี้ไปให้คนรักของเรา หรือคนที่อยู่เบื้องหน้าเราจะไม่มีโรคร้ายบางประการแฝงอยู่ ในเมื่อเชื้อโรคไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏอาการแสดงทันทีที่เรารับเชื้อเข้าสู่ร่าง กาย บางคนเมื่อรับเชื้อเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจะไม่ปรากฏอาการใดๆทั้งสิ้น แต่จะรอวันที่ร่างกายอ่อนแอจึงทำให้เกิดอาการ หรือบางครั้งเชื้อโรคก็เพียงอาศัยร่างกายของเราเป็นพาหะที่จะส่งต่อไปยังคน อื่นเท่านั้น ดังนั้นหากความรักคือการไว้ใจจนถึงขั้นที่จะสานต่อความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้ง เราก็ไม่ควรที่ละละเลยที่จะดูแลความไว้ใจของกัน ด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง จนกว่าเราพร้อมที่จะสร้างครอบครัวและมีทารกตัวเล็กอันเป็นที่รักของเรา

นอกจากการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยแล้ว สำหรับบางโรคเราสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ได้แก่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และวัคซีนป้องกันไวรัสมะเร็งปากมดลูก

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี(Hepatitis B Vaccine) สามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุ โดยฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 1 เดือน ส่วนเข็มที่ 2 และ 3 ห่างกัน 5 เดือน การฉีดนั้นจะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน และยังสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ(Hepatitis A Vaccine) ซึ่งติดต่อกันทางอาหารได้อีกด้วย โดยภูมิคุ้มกันจะเพิ่มสูงขึ้นหลังฉีดเข็มที่ 2  เหตุผลที่สำคัญในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีก็คือ มารดาที่เป็นพาหะของไวรัสนี้ เด็กแรกคลอดอาจติดเชื้อจากมารดาได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ขณะคลอด และสำหรับผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งตับ 14 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ชายติดเชื้อนี้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับถึง 50 เปอร์เซ็นต์

วัคซีนป้องกันไวรัสมะเร็งปากมดลูก(Human Pappilloma Virus, HPV) แนะนำให้ฉีดให้ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9-26 ปี หรือสตรีที่อายุมากกว่านี้แต่ไม่มีประวัติทางเพศสัมพันธ์ซึ่งไม่มีโอกาสเคย ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ โดยวิธีการฉีดและระยะเวลาการฉีดเช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับ อักเสบบี คือฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขนทั้งหมด 3 เข็ม เข็มที่ 1และ 2 ห่างกัน 1 เดือน และ เข็มที่ 2 กับ 3 ห่างกัน 4-5 เดือน  ซึ่งสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีได้ เพียงแต่ต้องแยกฉีดที่แขนคนละข้าง วัคซีนดังกล่าวป้องกันการติดเชื้อ HPV 16, 18 ซึ่งเป็นสาเหตุ 70% ของโรคมะเร็งปากมดลูก และป้องกันการติดเชื้อ HPV 6,11 ซึ่งเป็นสาเหตุ 95% ของโรคหูดหงอนไก่   สำหรับผู้ชายสามารถฉีดวัคซีนนี้ได้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องการการติด เชื้อHPV  ป้องกันการเกิดโรคหูดหงอนไก่ และป้องกันไม่ให้ตัวเองเป็นพาหะรับเชื้อนี้ไปส่งต่อให้คนรัก

ยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน ความรักอาจมีความหมายเปลี่ยนไปตามค่านิยมของยุคสมัย ค่านิยมของคนยุคใหม่ที่น่าเป็นห่วงประการหนึ่งนั้นก็คือ การให้ความสำคัญแก่วันแห่งความรักในฐานะวันแห่งการครอบครอง  คงจะดีไม่น้อยหากเราครอบครองและเรียนรู้ที่จะทะนุถนอมผู้เป็นที่รักของเรา ให้ปลอดภัยอยู่เสมอ เกราะกำบังแห่งความรักก็คือการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน การใช้ถุงยางอนามัย และการฉีดวัคซีนป้องกัน เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เรามีในยุคนี้ เหลือเพียงเราซึ่งพูดอยู่เสมอว่า “ผมรักคุณ” จะแสดงความรักอย่างไร ...ละเลยหรือดูแลกัน ?


นพ.สิรวิชญ์ เดชธรรม (พ.บ.,น.บ.,บธ.ม.)
ประกาศนียบัตรอาชีวเวชศาสตร์
Wellness Center, รพ.สมิติเวช ศรีราชา

 1 รังสิมา โล่เลขา, วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี, คู่มือวัคซีน 2008. สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
 2 ชิษณุ พันธุ์เจริญ, วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อแปปปิโลมา, คู่มือวัคซีน 2008. สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

ความรักคือ ไมเกรน


Love is a universal migraine, 
A bright stain on the vision, 
Blotting out reason.
(Robert  von Ranke Graves ,1895-1985)

อาการปวดศีรษะจากไมเกรน เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความรุนแรง จนกระทั่ง Robert Graves กวีชาวอังกฤษ ใช้อาการของไมเกรนในการบรรยายความรักในบทกวีชื่อ Symptoms of Love ดังข้อความข้างต้น ซึ่งแปลได้ว่า ความรักทำให้ปวดศีรษะได้เหมือนไมเกรน ทำให้ตาพร่ามัว และเกิดขึ้นอย่างไร้สาเหตุ ซึ่งก็นับว่าถูกต้องทีเดียว แต่ถ้า Robert Graves เป็นแพทย์ เขาคงจะอธิบายอาการไมเกรนไว้มากกว่านี้แน่ๆ

เมื่อมีอาการปวดศีรษะ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนซึ่งในทางการแพทย์ก็สนับสนุนความเชื่อนี้โดยระบุว่า ไมเกรนเป็นสาเหตุหลักของการปวดศีรษะ โดยทำให้ประชากรหญิงมีอาการปวดศีรษะถึง 15% และชายมีการปวดศีรษะถึง6%    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ปวดศีรษะจะต้องเป็นไมเกรน   ดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จักไมเกรนสักนิด

อาการปวดศีรษะจากไมเกรน(Migraine) นั้นจะมีลักษณะจำเพาะ คือการปวดตุบเป็นจังหวะซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นไปตามจังหวะการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง ส่วนใหญ่เป็นการปวดศีรษะข้างเดียว เป็นมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย และผู้ป่วยมักไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่น มีอาการเจ็บที่หนังศีรษะ ระยะเวลาปวดนานเป็นชั่วโมงหรืออาจนานถึง 2-3 วัน อาการปวดศีรษะไมเกรนจะเกิดซ้ำได้เรื่อยๆ และมีลำดับขั้นการเกิดอาการเป็นรูปแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน แต่อาจสลับข้างปวดได้

ไมเกรนแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือแบบมาตรฐาน (Classic Migraine หรือ Migraine with aura) ซึ่งจะมีอาการนำมาก่อน เช่น การมองเห็นแสงวูบวาบ การมองเห็นจุดแสงบริเวณกลางจอภาพและค่อยๆขยายตัวขึ้น หรือการเห็นแสงสีสเปคตรัมต่างๆ ซึ่งเกิดจากการศูนย์เสียหน้าที่ชั่วคราวของเซลล์ประสาทสมองส่วนที่แปรผลการมองเห็น ก่อนเกิดอาการบางคนอาจจะมีอาการนำมาก่อนช่วงสั้นๆ คืออาการ เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย  หงุดหงิด หรือซึมเศร้า  เวียนศีรษะ หน้ามืด  เป็นต้น ส่วนไมเกรนอีกแบบหนึ่งคือแบบทั่วไป (Common Migraine) จะไม่มีอาการนำมาก่อน

ปัจจุบัน เรายังไม่ทราบกลไกการเกิดไมเกรนที่ชัดเจน แต่เชื่อว่า ไมเกรนเกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือดในสมอง ระบบสารสื่อประสาท  และระบบฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งแปรปรวน ทำให้เพศหญิงมีอาการไมเกรนมากกกว่าชาย โดยเกิดอาการมากในช่วงอายุ 10-40 ปี และไมเกรนอาจเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม

อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่เราสามารถควบคุมเพื่อป้องกันการกระตุ้นไมเกรนได้ คือ

1 การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
2 หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท ซึ่งแต่ละคน อาจมีอาหารที่กระตุ้นการเกิดไมเกรนไม่เหมือนกัน ตัวอย่างอาหารที่อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นไมเกรน เช่น ช็อคโกแล็ต เนยแข็ง ผงชูรส สารกันบูด หรือสารกลุ่มไนเตรทซึ่งใช้ถนอมอาหารประเภทเนื้อ
3 หลีกเลี่ยงการอดอาหาร
4 หลีกเลี่ยงการอดนอน หรือการนอนยาวนานกว่าปกติ
5 หลีกเลี่ยงกลิ่นหรือน้ำมันระเหย
6 ไม่ออกกำลังกายอย่างหักโหม
7 ควบคุมอารมณ์เพื่อลดความเครียด และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอารมณ์อย่างฉับพลัน จะช่วยให้ความถี่ของการปวดศีรษะลดลง เทคนิคที่สามารถปฏิบัติได้เช่น การนั่งสมาธิ การเล่นโยคะ
8 หลีกเลี่ยงแสงวูบวาบ ไฟกระพริบต่างๆ
9 การเตรียมตัวเมื่อต้องเดินทางไกลโดยเฉพาะการข้าม time zone,
10 การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอากาศ, ความดันอากาศ, หรือระดับความสูง อาจกระตุ้นไมเกรนได้

เมื่อมีอาการปวดศีรษะเกิดขึ้น การใช้ยาแก้ปวดตั้งแต่เริ่มมีอาการจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ซึ่งชนิดและปริมาณของยาแก้ปวดสำหรับแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามระดับความรุนแรง  และโดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องกินยาหากไม่มีอาการ แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องพกยาที่เคยกินแล้วหายปวดไว้

มีผู้ป่วยบางรายที่อาการปวดรุนแรงมากอาจจำเป็นต้องกินยาป้องกัน คือ มีอาการปวดรุนแรงมากกว่า 3 ครั้งใน 1 เดือน, คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง และมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งประเภทของยาป้องกันนั้นควรปรึกษาแพทย์

นี่คือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไมเกรน อ่านแล้วเชื่อหรือยังครับว่า ไมเกรนเป็นอาการของความรัก แต่เป็นความรักที่ค่อนข้างจะรันทดไปสักหน่อยนะครับ.



นพ.สิรวิชญ์ เดชธรรม (พ.บ.,น.บ.,บธ.ม.)
ประกาศนียบัตรอาชีวเวชศาสตร์
Wellness Center, รพ.สมิติเวช ศรีราชา

เมื่อผมผ่าตัดครบหนึ่งโหล

การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) สามารถใช้ได้กับการผ่าตัดทางนรีเวชเกือบทุกชนิดเช่น การผ่าตัดมดลูก การผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ การผ่าตัดปีกมดลูก เป็นต้น กล้องที่ใช้ในการผ่าตัดมีกำลังขยายทำให้มองเห็นอวัยวะต่างๆได้ชัดเจน และสามารถเข้าไปถึงตำแหน่งต่างๆในอุ้งเชิงกรานได้ง่ายกว่าการผ่าตัดเปิดหน้า ท้องแบบดั้งเดิม โดยไม่ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ดังเช่นการผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบดั้งเดิม ผู้ป่วยปวดแผลน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า ทำให้พักอยู่ในโรงพยาบาลไม่นานก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น ในบางรายสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียว และส่วนใหญ่ก็สามารถใช้ชีวิตเกือบปกติได้ในหนึ่งสัปดาห์

สิบสองปีที่ผ่านไปได้ทำให้ผมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ได้รับใช้ประชาชนไปกว่า2000 ราย แต่เมื่อเทียบกับงานทั้งประเทศที่มีนับหมื่นในแต่ละปีถือว่าน้อยมาก  แต่ประสบการณ์ที่ค่อยๆสะสมมา และความรับผิดชอบที่สูงมากๆก็เป็นประวัติศาสตร์แห่งชีวิตอีกบทหนึ่งที่เกิด ขึ้นมาแล้วกับตัวผมเอง

หลังจากจบหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางในสาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาแล้ว ผมก็มีหนทางการดำเนินชีวิตไม่ต่างจากแพทย์ร่วมสายวิชาชีพท่านอื่นๆมากนัก นั่นก็คือการแสวงหาสถานที่ในการปฏิบัติงาน ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยมีเป้าหมายคือการนำวิชาการที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งสิ้น 9 ปี ลงสู่สนามการทำงานจริงอย่างสมบูรณ์นั่นเอง

 แต่ในชีวิตจริงนั้นมิได้เป็นเช่นดังที่คาดหวังไว้ การใช้ชีวิตมิได้หยุดนิ่ง เช่นเดียวกับการเรียนรู้  ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากข่าวสารข้อมูลที่ได้รับแตกต่างออกไปจากที่เรียนมาทีละเล็กทีละน้อย การที่จะพยายามไม่รับรู้สิ่งต่างๆจากภายนอกเป็นไปไม่ได้  เนื่องจากความจำเจเริ่มคืบคลานเข้ามา ความเบื่อหน่ายก็เข้ามาแทนที่ในชีวิต ทำให้การรับฝากครรภ์ การทำคลอด การทำหมัน การตรวจภายใน การผ่าตัดในอุ้งเชิงกรานโดยการเปิดหน้าท้องแบบดั้งเดิม เป็นสิ่งที่ไม่ท้าทายเท่าใดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกไร้พรหมแดนเช่นปัจจุบัน

ในปีพ.ศ. 2537 ผมได้เห็นประกาศการรับสมัครผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรการผ่าตัดผ่านกล้องทาง นรีเวชกรรม จากภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนีเป็นวิทยากร ทำให้ข้าพเจ้าสนใจขึ้นมาทันที เนื่องจากสมัยเรียนนั้น การผ่าตัดผ่านกล้องไม่เห็นมีอะไรแปลกใหม่เลยนอกเสียจากการส่องกล้องเพื่อการ ตรวจวินิจฉัย และการทำหมันแห้งเท่านั้น แต่นี่กลับมีการผ่าตัดได้ด้วย อีกทั้งในช่วงนั้นได้มีรายงานทางการแพทย์ฉบับหนึ่งได้กล่าวถึงการผ่าตัด มดลูกผ่านกล้องส่องช่องท้องสำเร็จเป็นรายแรกของโลกตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 โดยนายแพทย์ แฮรี่ ริชท์ จากสหรัฐอเมริกา จึงเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และหากเราได้เข้าร่วมการฝึกอบรมจะทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติม ขึ้นมาอีกเป็นแน่

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วกับการฝึกอบรมระยะสั้นครั้งนั้น ผมได้อะไรน้อยมากเนื่องจากมีผู้สนใจเข้ารับการฝึกอบรมมากมายเกือบร้อยคน ประกอบกับระยะเวลาการเรียนรู้มีจำกัด แต่สิ่งที่ผมได้เยอะมากที่สุดก็คือ ความประทับใจในความคิดและจินตนาการของมนุษย์ที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ในการแก้ปัญหาความเจ็บไข้ของมวลมนุษย์ให้ลุล่วงไปอย่างดีที่สุด ผมได้นำความรู้มาปฏิบัติตามแต่ก็เป็นไปอย่างไม่ราบรื่นเท่าใดนักและนั่นทำ ให้ผมตัดสินใจเดินหน้าต่อไปเพื่อไปให้ถึงความสามารถดังเช่นแพทย์จากประเทศ ที่เจริญแล้วเค้ามีกัน

ผมเริ่มต้นการเดินทางค้นหาความจริงด้วยการไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลในประเทศ เยอรมนี และ
เน เธอร์แลนด์ ได้พบเห็นการผ่าตัดผ่านกล้องสดๆด้วยตาของตนเองเป็นครั้งแรกเป็นการผ่าตัดเอา มดลูกออกทางช่องคลอดโดยใช้กล้องส่องช่องท้องช่วย แทบจะไม่เชื่อสายตาแต่ความเป็นจริงได้อุบัติขึ้นแล้วในโลกใบนี้ แต่เราก็ไม่สามารถจะเรียนรู้ได้อย่างถึงแก่นซะทีเดียว ผมจึงได้ติดต่อไปยังประธานสมาคมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องนานาชาติแห่งสหรัฐ อเมริกาขณะนั้นคือนายแพทย์ เจมส์ แดเนียล เพื่อขอเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผมก็ได้รับความกรุณาจากท่านอย่างเต็มที่โดยมิได้เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่าง ใด

ประสบการณ์ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อนั้น ผมได้ให้บริการการผ่าตัดผ่านกล้องแก่ผู้ป่วยไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 80 ราย ซึ่งขณะนั้นคิดว่าหากท่านอาจารย์ถามอะไรมา เราก็คงสามารถแสดงตัวเลขได้อย่างสมศักดิ์ศรีบ้างพอสมควร แต่เพื่อความไม่ประมาทไหนๆก็จะมาเรียนแล้วระหว่างโดยสารอยู่บนเครื่องบินก็ บันทึกคำถามเพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านๆมา นึกไปนึกมาได้ประมาณ 5 หน้าสมุดบันทึกทีเดียว

วันแรกแห่งการเรียนรู้อย่างจริงจังในปีพ.ศ. 2539 ก็ทำให้คำถามต่างๆที่เตรียมมาได้รับคำตอบที่น่าพอใจถึง 3 หน้าทีเดียวส่วนที่เหลือก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ก็ทำให้อุ่นใจได้ว่า.......เรามาถูกทางแล้ว ประสบกาณ์ที่ผ่านมา 80 รายภายในสองปีนั้นดูด้อยลงถนัดตาเมื่อเทียบกับสถิติการผ่าตัดผ่านกล้องในโรง พยาบาลเซนเทนเนียล เมดดิอลเซนเตอร์ มลรัฐเทนเนสซี่  มีมากถึงเดือนละ 300 ราย ผมถึงกับอุทานอยู่ในใจว่า โอ้มายก๊อด สัปดาห์ต่อมาผมได้ร่วมเดินทางไปประชุมวิชาการสามัญประจำปีของสมาคมที่ อาจารย์ของผมเป็นประธานอยู่ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองชิคาโก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 600 คนจากทั่วโลกทำให้เราได้เห็นว่า เป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้มาพบปะผู้สนใจวิชาการการผ่าตัดผ่านกล้องมากมายเช่น นี้เชียวหรือ ทำให้มีกำลังใจในการตั้งใจนำความรู้กลับมาให้บริการแก่ประชาชนมากขึ้นอีก เป็นทวีคูณ

การเรียนรู้เริ่มต้นด้วยการอ่านตำราต่างๆ จากนั้นจึงเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์วิธีการผ่าตัด และเมื่อมีเวลาว่างก็มานั่งดูวิดีโอการผ่าตัดชนิดต่างๆที่ได้บันทึกไว้ ในวันหยุดก็ฝึกการใช้เครื่องมือการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยใช้หุ่นยนต์มาเป็นเครื่องช่วยการเรียนรู้ จากนั้นก็ฝึกการผ่าตัดจริงในสัตว์ทดลองซึ่งก็น่าสงสารเจ้าหมูน้อยน้ำหนัก 25 กิโลกรัมเสียจริงๆ เนื่องจากต้องได้รับการฉีดยาให้เสียชีวิตไปหลังจากการเรียนรู้สิ้นสุดลง เมื่อการฝึกปฏิบัติมาถึงบทท้ายๆ ผมได้มายืนเคียงข้างเตียงผ่าตัดคู่กับผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดผ่านกล้องที่มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของโลก ร่วมกันผ่าตัด ร่วมกันเยี่ยมผู้ป่วยหลังการผ่าตัด คนแล้วคนเล่า จนแน่ใจว่าจะสามารถจดจำสิ่งที่มีประโยชน์มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันให้ ดีที่สุดให้จงได้   จากการเรียนรู้ที่ผ่านไป ทำให้เห็นความสามารถและประสิทธิภาพของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชกรรม ที่ทำพลิกความคิดแบบเดิมๆไปสู่ความรู้อีกหน้าหนึ่งของศาสตร์ทางการแพทย์สมัย ใหม่ ทั้งๆที่วิธีการเหล่านี้มีผู้ค้นคิดมานับร้อยปีแล้ว แต่พึ่งนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่เพียงสองทศวรรษเท่านั้น เนื่องจากได้มีการพัฒนาการทางเทคโนโลยีต่างๆเช่น ใยแก้วนำแสง เทคโนโลยีการถ่ายทอดสัญญาณภาพ หรือการใช้หุ่นยนต์เป็นต้น

ก่อนกลับท่านอาจารย์ได้ฝากข้อคิดสำคัญไว้ว่า One who does not learn Laparoscopy will be history (ผู้ใดไม่เรียนรู้การผ่าตัดผ่านกล้อง จะเป็นคนในยุกต์ประวัติศาสตร์ซะแล้ว) ผมก็ได้ถ่ายทอดให้รุ่นต่อๆมารับทราบเมื่อมีโอกาส และดูเหมือนจะใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ

จากวันแรกเริ่มที่ผมจับเครื่องมือการผ่าตัดผ่านกล้องจนถึงวันนี้ ครบสิบสองปีแล้ว  ผู้ป่วยที่มารับบริการการผ่าตัดสามารถเข้าใจวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรี เวชกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแพทย์ไทยเราที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศขณะนี้ได้มีการเรียนรู้ เพิ่มเติมมากขึ้น และได้มีการกระจายความรู้ความเข้าใจออกไปอย่างต่อเนื่อง  ตลอดจนได้มีการเรียนการสอนในทุกสถาบันการแพทย์ของประเทศให้แพทย์มีความรู้ พื้นฐานในการขวนขวายต่อไปในภายภาคหน้า จนผมสังเกตพบว่าผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80 เลยทีเดียวที่มีข้อมูลของการผ่าตัดผ่านกล้อง วิธีการผ่าตัดก็สามารถทำได้โดยการเป่าลมเข้าสู่ช่องท้อง แล้วใช้กล้องที่มีแสงสว่างอยู่ด้วยสอดผ่านแผลขนาด 5 มิลลิเมตรบริเวณสะดือลงสู่ภายในช่องท้อง เพื่อทำการตรวจสภาพภายในช่องท้องจากนั้นจึงสอดเครื่องมือขนาดเล็กผ่านแผล บริเวณท้องน้อยทั้งสองข้างเพื่อทำการผ่าตัด

สิบสองปีที่ผ่านไปได้ทำให้ผมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ได้รับใช้ประชาชนไปกว่า 2000 ราย แต่เมื่อเทียบกับงานทั้งประเทศที่มีนับหมื่นในแต่ละปีถือว่าน้อยมาก แต่ก็นับได้ว่าเป็นฟันเฟืองส่วนหนึ่งที่พยายามนำพาวิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง ให้ไปสู่จุดหมายที่แท้จริง เพราะนอกจากจะให้บริการผู้เจ็บป่วยแล้ว ยังได้ร่วมกับชมรมนรีแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องแห่งประเทศไทย เผยแพร่ความรู้อย่างต่อเนื่องอีก ด้วย                                                                         

จะเห็นได้ว่าการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชกรรมสามารถนำมาให้บริการแก่ผู้ป่วย ได้อย่างหลากหลาย โดยที่ข้อบ่งชี้ในการทำผ่าตัดมีมากขึ้นและข้อห้ามก็จะลดลงตามลำดับ แปรตามจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจวิธีการทางด้านนี้ได้ขยายวงกว้างออกไป เรื่อยๆ   แต่ในขณะเดียวกันผลข้างเคียงก็อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว    

จากประสบการณ์ดังกล่าวข้างต้นผู้เขียนเห็นว่ามีสิ่งที่น่าจะสามารถนำมาบอก เล่า   ถึงศักยภาพของการนำวิธีการทางการแพทย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้มารับ บริการอย่างสูงสุด อันเป็นการ transfer technology  จากอดีตมาสู่ยุคสมัยปัจจุบันเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ให้มากขึ้นในอนาคต

เขียนโดย:
นพ. มงคล จันทาภากุล
สูติ นรีเวชวิทยา - ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

มาเป็นสาว 40+ ที่ใครๆ ก็รักกันดีกว่า



อยากเป็นสาวอบอุ่นที่ใครๆก็รุมรัก ทิ้งผู้หญิงที่น้ำหนักพุ่ง เหนื่อยง่าย แถมขี้หงุดหงิด คนทำขอเปลี่ยนเป็นสาวหุ่นฟิต ที่สนุก กับการแฮงเอาท์ เชื่อหรือเปล่า..แค่สุขภาพดีคุณก็ทั้งหุ่นฟิต ทั้งอารมณ์ดี มาเป็นสาว 40+ ที่ใครๆ ก็รักกันดีกว่า
What to know when in your 40+
มะเร็งเต้านม

วิธีการค้นหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกที่ดีที่สุด และยอมรับเป็นมาตรฐานโลกในขณะนี้คือ การเอ็กซเรย์เต้านมโดยเครื่องแมมโมแกรม ระบบดิจิตอล (Digital Mammogram) Digital Mammogram เป็นการตรวจโดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์ทั่วๆไป ซึ่งมีความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างของไขมันและเนื้อเยื่ออื่นๆ ที่เป็นท่อและต่อมต่างๆ ในเต้านมสูงในการบ่งชี้ว่าเป็นลักษณะของมะเร็งเต้านมหรือไม่
   Digital Mammogram with Uktrasound Breast
   เอกซเรย็เต้านมด้วยเครื่อง ดิจิตอล แมมโมแกรม
   Thin Prep HPV
   ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและไวรัส เอช พี วี ราคาเริ่มต้นที่
   4,900 บาท
   Digital Mammogram with Ultrasound Breast
   เอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่อง ดิจิตอล แมมโมแกรม พร้อมอัลต้ราซาวน์
   5,000 บาท

หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
ศูนย์สุขภาพสตรีและผู้มีบุตรยาก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 0-2711-8555

ย้อนวัยให้ผิว

ด้วย Cell Rejuventator นวัตกรรมสำหรับการ ปลุกชีวิตเซลล์ผิวที่อ่อนล้าให้ฟื้นคืนพลัง ด้วยการเพิ่มการผลิต ATP จากไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นขุมพลังงานของเซลล์ รวมทั้งร่วมกำจัดอนุมูลอิสระ ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ เช่น ระบบประสาท กล้ามเนื้อ สามารถทำงานประสานกัน ได้อย่างสมดุล เกิดการซ่อมแซมและเสริมสร้าง โปรตีน คอลลาเจน อิลาสติน ฟื้นฟูสภาพผิว และยกกระชับคืนความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
   Rejuvenation laser    7,900 บาท
   Botox ราคาเริ่มต้นที่    5,000 บาท
   X-Slimmer ราคาเริ่มต้นที่    4,000 บาท

หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท อาคาร 2 ชั้น 5 โทร 02-711-8519

ทางเลือกในการขจัดเซลลูไลท์

โปรแกรม X-Slimmer นวัตกรรมที่ช่วยในการลดและป้องกันเซลลูไลท์ควบคุมสัดส่วนร่างกาย กระชับผิวพรรณ ต่อต้านและชะลอความแก่โดยไม่ต้องผ่าตัด

ดูแลสุขภาพตา

ต้อกระจกคือภาวะที่เลส์แก้วตาขุ่น เกิดจากความเสื่อมตามอายุเป็นอันดับแรก และยังสามารถเกิดจากอุบัติเหตุกระแทก การได้รับสารพิษ การมีโรคประจำตัวบางอย่าง หรือเป็นแต่กำเนิดได้
   ตรวจต้อกระจกเบื้องต้น ราคาเริ่มต้นที่    1,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
จักษุคลินิกและศูนย์เลสิก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-89998-9

ข้อไหล่ติด

พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พบในคนอายุ 45-60 ปี ทำให้มีอาการปวดเวลาขยับเคลื่อนไหว มักปวดตอนกลางคืน การติดของข้อไหล่ ทำให้ความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันลดลง ปัจจุบันการผ่าตัดโดยการส่องกล้องขนาดเล็ก มีประสิทธิภาพสูง แผลมีขนาดเล็ก ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น
X-Ray ข้อไหล่ (หัวไหล่)
   shoulder Lt Ap-Transcapular    1,000 บาท
   shoulder Lt Ap-Trans Axillary    1,000 บาท
   shoulder Rt Ap-Transcapular    1,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
ศูนย์กระดูก-ข้อ และการแพทย์กีฬา อาคาร ชั้น 1 รพ. สมิติเวชสุขุมวิท โทร 02-711-8494-6

โรคนิ้วล็อค

พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย คือการที่บางส่วนของเส้นเอ็นมีการอักเสบหรือการหนาตัวขึ้น และมีการไปยึดติดกับปลอกของเส้นเอ็น ที่โคนนิ้ว จะทำให้เกิดการล็อคของนิ้วเมื่อนิ้วอยู่ในท่างอ

ถ้าคุณมีอาการเสี่ยงเหล่านี้ ควรพบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

- มีประวัติคนในครอบครัว เป็นโรคหัวใจ หรือหลอดเลือด
- ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และฟาสต์ฟูต
- มีความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท
- มีระดับคอเรสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เป็นชายอายุมากกว่า 45 ปี หรือ หญิงอายุมากกว่า 55 ปี
- ไม่ชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
- มักจะเครียดและวิตกกังวล หรืออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่เสมอ
- มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- มีน้ำหนักตัวมาก (ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30)
- สูบบุหรี่เป็นประจำ
   EKG ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ    500 บาท
   Exercise Stress Test (EST)    ตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน    4,600 บาท
หมายเหตุ - ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
สถาบันหัวใจอาคาร 1 ชั้น 1 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8110-2

โรคหลอดเลือดสมอง ภัยเงียบซ่อนเร้น ที่รู้ก่อนป้องกันได้

- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- ภาวะไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจ อาทิ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจ
- สูบบุหรี่ภาวะเสี่ยงเหล่านี้มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองและไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ มาก่อน อาการแขนขาอ่อนแรงหรือชาของร่างกาย ครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด วิงเวียนศีรษะ เดินเซ ปวดศรีษะอย่างรุนแรง นั้นเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองที่พบได้บ่อยอย่ารอจนอาการเหล่านี้เกิดขึ้น! มาตรวจภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองก่อนจะสาย เพื่อป้องกันตั้งแต่วันนี้
   โปรแกรมตรวจหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง Screening Stroke (Carotid Doppler)    6,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
ศูนย์สมองและระบบประสาท แผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรม เคาน์เตอร์ 4 รพ. สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8491 (8.00-20.00 น.)

การให้วัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

ที่มีความคุ้มค่ากว่าเมื่อต้องทำการรักษาหลังจากติดเชื้อหรือเป็นโรคแล้ว โดยวัคซีน จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเครื่องป้องกันของร่างกาย และทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค และในแต่ละประเทศมีความแตกต่างทั้งด้านภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ รวมถึงโรคประจำถิ่น สิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนในประเทศนั้นๆ รวมทั้งผู้เดินทางไปมาระหว่างประเทศ ตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงรุนแรงขั้นเสียชีวิตได้ และสามารถแพร่ระบาดได้ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
Vaccination and Travel Medication Center
ตึกผู้ป่วยนอกอาคาร 1 ชั้น 1 เคาน์เตอร์ 2 โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โทร 02-7118484 (8.00-20.00 น.)

EBUS-GS (Endobronchial Ultrasonography with a Guide Sheath)

ระบบนำร่องในการค้นหามะเร็งปอด โดยใช้อัลตราซาวน์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการส่องกล้องตรวจปอดและหลอดลม มีความทันสมัยและสามารถวิเคราะห์โรคมะเร็งปอดในระยะแรกได้รวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำที่สุดในปัจจุบัน สามารถตรวจวินิจฉัยหารอยโรคปอดในบริเวณแขนงหลอดลมในส่วนที่ลึก ซึ่งกล้องส่องตรวจปอดและหลอดลมธรรมดา ไม่สามารถเข้าไปถึง ด้วยมาตรฐานการรักษาโรคเฉพาะทางโรคมะเร็งปอด ได้รับการรับรองจาก JCI สถาบันรังรองคุณภาพระดับสากลแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งเดียวในโลก
ศูนย์ระบบทางเดินหายใจ Quit Smoking Clinic อาคาร 1 ชั้น 1 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8884-5

 เพราะชีวิตออกแบบได้ จากรหัสพันธุกรรม

ยีน เปรียบดั่งพิมพ์เขียวชีวิต ที่กำหนดให้คนเราแต่ละคน มีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสีผิว เส้นผม ความสูง หรือแม้แต่ความสามารถในการห่อลิ้น ก็ล้วนเป็นผลมาจากรหัสพันธุกรรม การตรวจ Gene SNP Test เป็นการตรวจค้นหาความผิดปกติที่เรียกว่า SNP ซึ่งเป็น ความผิดปกติของรหัสนิวคลีโอไทด์ในยีน แต่ละรหัส ซึ่งส่งผลถึงการแสดงออกของยีน ที่มีความสำคัญต่อการเกิดโรค และการทำงานของร่างกายหลากหลายระบบ

การตรวจสุขภาพด้วยศาสตร์ Anti-aging

เป็นการดูแลสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ป้องกันก่อนเกิดโรค ด้วยการตรวจลึกถึงระดับพันธุกรรมและกำหนดรหัสชีวิต (Life Code) นำไปสู่การดูแลสุขภาพตามแบบฉบับเฉพาะบุคคล ก่อให้เกิดความสมดุล และสุขภาพที่แข็งแรงจากภายใน พร้อมความงามที่อ่อนเยาว์

การฝังเข็ม

เป็นวิธีการแทงเข็มรักษาโรคด้วยการใช้เข็ม ซึ่งมีหลายขนาด แทงลงไปตรงตำแหน่งของจุดฝังเข็มตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยใช้หลักการรักษาของแพทย์แผนจีนที่มีพัฒนาการมากกว่า 4000 ปี เป็นที่ยอมรับการรักษาโรค และหรือบรรเทาอาการด้วยวิธีฝังเข็ม อาทิ อาการปวด ปวดต้นคอเรื้อรัง หัวไหล่ ข้อศอก สันหลัง ปวดเอว ปวดหัวเข่า ปวดจากโรครูมาตอยด์ ปวดจากการเคล็ดขัดยอก ปวดนิ่วในถุงน้ำดี ปวดศีรษะ มีสาเหตุมาจากความเครียด ปวดเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ปวดในระบบทางเดินปัสสาวะ ปวดเส้นประสาท หรือปวดเส้นประสาทบนใบหน้า ปวดหลัง การผ่าตัด ปวดไมเกรน อาการซึมเศร้า
   Life Code Trial Package ราคาเริ่มต้นที่   3,800 บาท
   โปรแกรมฝังเข็ม 10 ครั้ง   7,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
Life Center อาคาร 1 ชั้น 2 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 0-2711-8749-50

เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ตรวจพังผืดในตับ

Fibroscan เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ตรวจพังผืดในตับ โดยใช้หลักการของ การส่งคลื่นเสียงและความสั่นสะเทือนเข้าไปในเนื้อตับ โดยตับที่แข็ง จะมีความสามารถในการผ่านคลื่นเสียงเร็วกว่าตับปกติ
Fibroscan เหมาะสำหรับวัดพังผืดในตับของกลุ่ม
- ผู้ที่มีภาวะตับอักเสบเรื้อรัง
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่มีภาวะไขมันคั่งในตับ

การส่องกล้องตรวจดูกระเพาะอาหารด้วยเครื่อง Gastroscope

สามารถค้นพบสาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร เช่น เชื้อแบคทีเรีย H.pylori ซึ่่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้องจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้นอักเสบ
   Fibroscan ราคาเริ่มต้นที่   3,625 บาท
   โปรแกรมฝังเข็ม 10 ครั้ง   7,000 บาท
Gastroscopy ส่องกล้องกระเพาะอาหาร
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล ค่าตรวจชิ้นเนื้อ ค่าตรวจพิเศษต่างๆ
- ราคานี้สำหรับผู้ที่อายุไม่เกิน 65 ปี และไม่มีโรคประจำตัว แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าสามารถเข้าโปรแกรมได้หรือไม่
สถาบันโรคตับและระบบทางเดินอาหาร อาคาร 1 ชั้น 2 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8822


หมายเหตุ

- คูปองนี้ไม่สามารถแลก ทอน หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ
- สงวนสิทธิ์การใช้ 1 คูปอง / 1 ครั้ง
- เพื่อความสะดวก กรุณานัดหมายล่วงหน้า ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ในคูปอง
- ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- สามารถรับบริการได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555

50+ หญิงแกร่งเคล็ดลับอยู่ที่สุขภาพ



หญิงแกร่งเคล็ดลับอยู่ที่สุขภาพฉลองช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของชีวิตในอาชีพการงานด้วยของขวัญที่ดีที่สุด คือการมีสุขภาพดีกับเช็คลิสต์ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจกีบสุขภาพมากยิ่งขึ้น นี่แหละเคล็ดลับของหญิงแกร่งตัวจริงเสียงจริง
What to know when in your 50+
ก้าวสู่วัยทองอย่างมีคุณภาพ

1.กินอาหารให้ครบถ้วน ถูกสัดส่วนและหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้พลังงานและสารอาหารต่างๆ อย่างเพียงพอตามความต้องการของร่ากายดังกล่าวมาแล้ว
2.ดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน
3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อให้ปอด หัวใจ มีความแข็งแรง กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น
4.ทำอารมณ์และจิตใจให้สดใส เบิกบาน มีความกระตือรือร้นในการทำงานและการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ
5.พบนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องอาหารต่างๆ ให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย
6.การรับประทานฮอร์โมน จะเป็นฮอร์โมนที่เลียนแบบฮอร์โมนที่ผลิตมาจากรังไข่ เพราะวัยทองนี้เป็นวัยที่รังไข่ทำงานน้อยลงจนกระทั่งหยุดทำงานไป ไม่สร้างฮอร์โมนอีก เราจะใช้ฮอร์โมนจากภายนอกเข้าไปทำงานแทน โดยจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
   Thin Prep HPV ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และไวรัส เอช พี วี ราคาเริ่มต้นที่    4,900 บาท
   Digital Mammogram with Ultrasound Breast    5,000 บาท
   เอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่อง ดิจิตอล แมมโมแกรม พร้อมอัลตร้าซาวน์
   Bone Density Test ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก
   (กระดูกสันหลังส่วนสะโพก, กระดูกข้อสะโพก)
   3,300 บาท
หมายเหตุ – ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
ศูนย์สุขภาพสตรีและผู้มีบุตรยาก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 0-2711-8555

ทางเลือกในการขจัดเซลลูไลท์

โปรแกรม X-Slimmer นวัตกรรมที่ช่วยในการลดและป้องกันเซลลูไลท์ควบคุมสัดส่วนร่างกาย กระชับผิวพรรณ ต่อต้านและชะลอความแก่โดยไม่ต้องผ่าตัด
   Botox ราคาเริ่มต้นที่    5,000 บาท
   X-Slimmer ราคาเริ่มต้นที่    4,000 บาท
หมายเหตุ – ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท อาคาร 2 ชั้น 5 โทร 02-711-8519
ลดริ้วรอยและยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้า

Botulinum Treatment ลดริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ระหว่างคิ้ว กราม ยกกระชับใบหน้าให้เรียว ดูเป็นธรรมชาติ Filler เติมเต็มรอยพร่องให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ Dermalift กระตุ้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้ยกกระชับ ด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัด Radio Frequency ยกกระชับและลดริ้วรอยด้วยคลื่นความถี่พิเศษ
   Botox ราคาเริ่มต้นที่    5,000 บาท
   X-Slimmer ราคาเริ่มต้นที่    4,000 บาท

หมายเหตุ – ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ รพ.สมิติเวช อาคาร2 ชั้น5 โทร 02-711-8519

ดูแลสุขภาพตา

โรคต้อหิน เป็นโรคของดวงตาที่พบบ่อย กลุ่มที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มผุ้สูงอายุ โดยผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากการเสื่อมของร่างกายเอง โรคต้อหินเป็นกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงทำลายของขั้วประสาทตา และมีอันตรายอย่างมากถึงขั้นตาบอดสนิท ถ้าไม่รักษา หรือรักษาไม่สม่ำเสมอ จะทำให้ลานสายตาหรือความกว้างของการมองเห็นแคบเข้า จนกระทั่งสูญเสียการมองเห็นไปทั้งหมดได้ ซึ่งการสูญเสียการมองเห็นจากโรคต้อหินนั้นเป็นการสูญเสียถาวร ไม่สามารถจะแก้ไขให้คืนมาได้
   ตรวจต้อหินเบื้องต้น ราคาเริ่มต้นที่    1,000 บาท
หมายเหตุ – ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
จักษุคลินิก และศูนย์เลสิก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8998-9

ถ้าคุณมีอาการเสี่ยงเหล่านี้ ควรพบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

- มีประวัติคนในครอบครัว เป็นโรคหัวใจ หรือหลอดเลือด
- ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และฟาสต์ฟูต
- มีความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท
- มีระดับคอเรสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เป็นชายอายุมากกว่า 45 ปี หรือ หญิงอายุมากกว่า 55 ปี
- ไม่ชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
- มักจะเครียดและวิตกกังวล หรืออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่เสมอ
- มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- มีน้ำหนักตัวมาก (ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30)
- สูบบุหรี่เป็นประจำ
   EKG ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ    500 บาท
   Exercise Stress Test (EST)    ตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน    4,600 บาท
หมายเหตุ - ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
สถาบันหัวใจอาคาร 1 ชั้น 1 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8110-2

โรคหลอดเลือดสมอง ภัยเงียบซ่อนเร้น ที่รู้ก่อนป้องกันได้

- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- ภาวะไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจ อาทิ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจ
- สูบบุหรี่ภาวะเสี่ยงเหล่านี้มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองและไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ มาก่อน อาการแขนขาอ่อนแรงหรือชาของร่างกาย ครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด วิงเวียนศีรษะ เดินเซ ปวดศรีษะอย่างรุนแรง นั้นเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองที่พบได้บ่อยอย่ารอจนอาการเหล่านี้เกิดขึ้น! มาตรวจภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองก่อนจะสาย เพื่อป้องกันตั้งแต่วันนี้
   โปรแกรมตรวจหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง Screening Stroke (Carotid Doppler)    6,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
ศูนย์สมองและระบบประสาท แผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรม เคาน์เตอร์ 4 รพ. สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8491 (8.00-20.00 น.)

 EBUS-GS (Endobronchial Ultrasonography with a Guide Sheath)

ระบบนำร่องในการค้นหามะเร็งปอด โดยใช้อัลตราซาวน์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการส่องกล้องตรวจปอดและหลอดลม มีความทันสมัยและสามารถวิเคราะห์โรคมะเร็งปอดในระยะแรกได้รวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำที่สุดในปัจจุบัน สามารถตรวจวินิจฉัยหารอยโรคปอดในบริเวณแขนงหลอดลมในส่วนที่ลึก ซึ่งกล้องส่องตรวจปอดและหลอดลมธรรมดา ไม่สามารถเข้าไปถึง ด้วยมาตรฐานการรักษาโรคเฉพาะทางโรคมะเร็งปอด ได้รับการรับรองจาก JCI สถาบันรังรองคุณภาพระดับสากลแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งเดียวในโลก
ศูนย์ระบบทางเดินหายใจ Quit Smoking Clinic อาคาร 1 ชั้น 1 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8884-5

การให้วัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

ที่มีความคุ้มค่ากว่าเมื่อต้องทำการรักษาหลังจากติดเชื้อหรือเป็นโรคแล้ว โดยวัคซีน จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเครื่องป้องกันของร่างกาย และทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค และในแต่ละประเทศมีความแตกต่างทั้งด้านภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ รวมถึงโรคประจำถิ่น สิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนในประเทศนั้นๆ รวมทั้งผู้เดินทางไปมาระหว่างประเทศ ตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงรุนแรงขั้นเสียชีวิตได้ และสามารถแพร่ระบาดได้ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
Vaccination and Travel Medication Center
ตึกผู้ป่วยนอกอาคาร 1 ชั้น 1 เคาน์เตอร์ 2 โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โทร 02-7118484 (8.00-20.00 น.)

การตรวจสุขภาพด้วยศาสตร์ Anti-aging

เป็นการดูแลสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ป้องกันก่อนเกิดโรค ด้วยการตรวจลึกถึงระดับพันธุกรรมและกำหนดรหัสชีวิต (Life Code) นำไปสู่การดูแลสุขภาพตามแบบฉบับเฉพาะบุคคล ก่อให้เกิดความสมดุล และสุขภาพที่แข็งแรงจากภายใน พร้อมความงามที่อ่อนเยาว์

การฝังเข็ม

เป็นวิธีการแทงเข็มรักษาโรคด้วยการใช้เข็ม ซึ่งมีหลายขนาด แทงลงไปตรงตำแหน่งของจุดฝังเข็มตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยใช้หลักการรักษาของแพทย์แผนจีนที่มีพัฒนาการมากกว่า 4000 ปี เป็นที่ยอมรับการรักษาโรค และหรือบรรเทาอาการด้วยวิธีฝังเข็ม อาทิ อาการปวด ปวดต้นคอเรื้อรัง หัวไหล่ ข้อศอก สันหลัง ปวดเอว ปวดหัวเข่า ปวดจากโรครูมาตอยด์ ปวดจากการเคล็ดขัดยอก ปวดนิ่วในถุงน้ำดี ปวดศีรษะ มีสาเหตุมาจากความเครียด ปวดเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ปวดในระบบทางเดินปัสสาวะ ปวดเส้นประสาท หรือปวดเส้นประสาทบนใบหน้า ปวดหลัง การผ่าตัด ปวดไมเกรน อาการซึมเศร้า
   โปรแกรมฝังเข็ม 10 ครั้ง   7,000 บาท
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลฯ
Life Center อาคาร 1 ชั้น 2 รพ.สมิติเวช สุขุมวิท โทร 0-2711-8749-50

ใคร..! คือผู้ที่ควรส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร

1. มีอาการปวดท้องเป็นๆ หายๆ มีแผลในกระเพาะอาหาร ถ่ายอุจจาระดำ หรือมีเลือดปน ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้องบ่อยๆ
    เลือดออกในทางเดินอาหาร ท้องผูก ท้องเสีย หรือ ท้องผูกสลับกับท้องเสีย
2. มีประวัติญาติในครอบครัวเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร ในกรณีนี้ควรจรวจอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง แม้ไม่มีอาการ
3. อายุมากกว่า 50 ปี
   การส่องกล้องเพื่อดูภาพลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)    18,000 บาท
   การส่องกล้องเพื่อดูแลภาพกระเพาะอาหาร (Gastroscopy)    14,000 บาท
หมายเหตุ 
สถาบันโรคตับและระบบทางเดินอาหาร อาคาร 1 ชั้น 2 รพ. สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-7118822

โรคกระดูกพรุน

คือภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง ทำให้ร่างกายมีมวลกระดูกลดน้อยลงและมีการเสื่อมสลายของเนื้อเยื่อกระดูก จนทำให้กระดูกเปราะบางและแตกหักง่ายกว่าปกติ

กระดูกสันหลังเสื่อม

เป็นสาเหตุหนึ่งของการปวดหลัง ที่พบบ่อยในคนสูงอายุ หากปล่อยให้ลุกลามรุนแรง อาจส่งผลให้เกิดการลุกลามถึงขั้นกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทได้และสุดท้ายอาจเป็นอัมพาตในที่สุด
การผ่าตัดรักษาโรคกระดูกสันหลังผ่านกล้อง ด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี Navigation System ร่วมกับการรักษาแบบแผลเล็กเจ็บน้อย ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 1.5 ซม.และลดความเสี่ยงของการผ่าตัด มีความแม่นยำปลอดภัยสูง เสียเลือดน้อยลดอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การบาดเจ็บ ต่อเส้นประสาทไขสันหลัง และฟื้นตัวเร็ว
   Bone Dens Lumbar-hip    ตรวจวัดมวลกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังและข้อสะโพก    3,300 บาท
   Lumbar spine Ap-Lat เอกชเรย์กระดูกสันหลังบริเวณสะเอว    ท่าหน้าตรงและท่าด้านข้าง    1,000 บาท
   Lumbar spine Ap-Lat flexion-Exlension    1,500 บาท
   เอกซเรย์กระดูกสันหลังบริเวณสะเอว ท่าหน้าตรงและท่าด้านข้าง ก้มและเงย
   Cervical spine Ap-Lat
   เอกซเรย์กระดูกต้นคอทาหน้าและท่าด้านข้าง
   1,000 บาท
   Cervical Spine Ap-Lat Flexion Extension
   เอกซเรย์กระดูกต้นคอ ท่าหน้าตรงและทาด้านข้าง ก้มและเงย
   2,000 บาท
หมายเหตุ – ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการผู้ป่วยนอก
ศูนย์กระดูก-ข้อ และการแพทย์กีฬา อาคาร 1 ชั้น 1 รพ. สมิติเวช สุขุมวิท โทร 02-711-8492-6

หมายเหตุ
- คูปองนี้ไม่สามารถแลก ทอน หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ
- สงวนสิทธิ์การใช้ 1 คูปอง / 1 ครั้ง
- เพื่อความสะดวก กรุณานัดหมายล่วงหน้า ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ในคูปอง
- ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- สามารถรับบริการได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555