มะเร็งปากมดลูกคืออะไร
ฉันจะเป็นไหม แล้วมีทางรักษาหรือเปล่า
แล้วฉันต้องทำยังไงถ้าจะไปตรวจ
หลายๆ คนคงเคยได้ยินความร้ายแรงของ “มะเร็งปากมดลูก” แต่กลัวที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจ ถ้าอย่างนั้น ลองมาทำความรู้จักกับเจ้ามะเร็งตัวนี้กันก่อนดีไหม จะได้รู้ที่มาที่ไป และหาทางรับมือ ป้องกันได้อย่างทันท่วงที เพราะนั่นคือการดูแลสุขภาพของเรา มะเร็งปากมดลูก พบบ่อยในผู้หญิงช่วงอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ Oncogenic HPV ที่บริเวณปากมดลูก ซึ่งที่พบมากที่สุดราวๆ 70% ก็คือสายพันธุ์ HPV 16 และ HPV 18 ซึ่งเราสามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้หากยังไม่มีอาการ โดยแพทย์จะฉีดวัคซีน HPV ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับที่ก่อให้เกิดโรค เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และเพื่อป้องกันรอยโรคของผู้หญิง เมื่อเริ่มฉีดครั้งแรก ก็ควรฉีดต่อเนื่องในระยะเวลาที่ต่างกันให้ครบ 3 เข็ม และหลังฉีด อาจเกิดอาการข้างเคียงบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย เช่น ปวด บวม แดง และคัน แต่ไม่รุนแรงมาก และจะหายไปในเวลาไม่นาน บางคนอาจเป็นไข้ แต่ก็จะหายไปเองเช่นกัน
การฉีดวัคซีนตัวนี้ สามารถป้องกันได้อย่างได้ผล เพราะเป็นวัคซีนที่มีศักยภาพสูงในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง และเราสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 9-50 ปี การฉีดวัคซีนในเด็กผู้หญิงควรจะทำเมื่ออายุยังน้อย เพราะจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเด็กยังไม่มีเพศสัมพันธ์จึงยังไม่ได้รับเชื้อ นอกจากนี้เด็กยังสามารถตอบสนองและสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าผู้ใหญ่
แต่การฉีดวัคซีน HPV ก็มีข้อห้ามสำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้ (Hypersensitivity) ต่อสาร ประกอบในวัคซีน เช่น ยีสต์ และผู้ที่เคยมีภาวะภูมิแพ้หลังฉีดวัคซีน HPV ครั้งแรก เมื่อต้องการฉีดวัคซีนชนิดนี้ สิ่งที่ควรทราบก็คือ วัคซีนชนิดนี้ไม่สามารถใช้แทนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ ไม่สามารถป้องกัน การติดเชื้อ HPV ได้ทุกราย ไม่สามารถรักษารอยโรคมะเร็งปากมดลูก ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือรอยโรค ที่เกิดจากเชื้อ HPV สายพันธุ์อื่นนอกจาก HPV 16 และ HPV 18 ได้
รู้จักมะเร็งปากมดลูกกันแล้ว ก็อย่าลืมนัดคุณหมอเพื่อเข้าพบและตรวจ ป้องกันไว้เพื่อความปลอดภัยกันดีกว่า
ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น