วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชัยชนะไม่มีสิ้นสุด

วันนี้ต้องขอยืมคำคมของเจ้าของแบรนด์ดังมาใช้สักหน่อยค่ะ จะได้เห็นภาพชัด สำหรับนักกีฬาที่รู้สึกหมดหวังเมื่อได้รับบาดเจ็บ เพราะกลัวกลับมาเล่นไม่ได้อีก อย่ากลัวเลยค่ะ สมัยนี้ทุกอย่างซ่อมได้เกือบหมด ขอเพียงแต่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัดเท่านั้น ไอเกิล มีคำแนะนำดีๆ จาก รศ.ดร.ประวิตร เจนวรรธนะกุล นักกายภาพบำบัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์การกีฬา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มาฝากทุกท่านค่ะ
เมื่อดูเผินๆ จะพบว่า การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในนักกีฬานั้น ไม่ได้แตกต่างจากการบาดเจ็บที่พบในคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักกีฬา โดยลักษณะการบาดเจ็บที่พบในคนทั้งสองกลุ่มนั้นคล้ายๆ กัน ตัวอย่างเช่น ข้อแพลง ข้อเคลื่อน เอ็นกล้ามเนื้อ หรือ เอ็นข้อต่ออักเสบ เป็นต้น ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในนักกีฬาและคนทั่วไปก็คือ ถ้าเป็นนักกีฬา การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของร่างกายที่รุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างกับการเคลื่อนไหวร่างกายในกิจวัตรประจำวันทั่วไปโดยสิ้นเชิง เช่น ในการเล่นเทนนิสนั้น มือจะมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 76 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือในการเล่นกอล์ฟ ลำตัวจะมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 426 องศาต่อวินาที เป็นต้น
ดังนั้น ร่างกายของนักกีฬาจึงจำเป็นต้องมีความสมบูรณ์อย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน อาทิ กล้ามเนื้อต้องมีความแข็งแรงอย่างมาก เนื้อเยื่อต้องมีความยืดหยุ่นในทุกทิศทาง ร่างกายต้องมีความทนทานที่จะสามารถเล่นกีฬาได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ระบบการรับรู้ การเคลื่อนไหวของร่างกาย ต้องเฉียบคม และนักกีฬาต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะต่างๆ ที่ปกติ ราบรื่น และเป็นไปโดยอัตโนมัติ เพื่อที่นักกีฬาจะได้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างเต็มศักยภาพ เมื่อนักกีฬาภายหลังได้รับบาดเจ็บ ในระยะแรกนักกีฬาอาจไม่สามารถสังเกตพบความบกพร่องที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้เลย โดยเฉพาะในระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน ต่อเมื่อนักกีฬาเริ่มกลับไปเล่นกีฬาของตนเองอกี ครงั้ ภายหลงั ทอี่ าการบาดเจบ็ บรรเทาลงแล้วจะพบว่า ทักษะหรือความคล่องแคล่วในการเล่นกีฬาของตนเองลดลงหรือไม่เหมือนเดิมหลายคนเข้าใจไปว่าเกิดจากขาดการฝึกซ้อม หรือฝึกซ้อมน้อยลงในระหว่างที่ได้รับบาดเจ็บ โดยไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วร่างกายของตนยังฟิตไม่เท่าเดิม ทั้งยังมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บซํ้าขึ้นอีก

การบาดเจ็บจะมีผลกระทบต่อร่างกายนักกีฬาดังนี้
• กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ความแข็งแรงและยืดหยุ่นตัวลดลง เกิดการเมื่อยล้าง่าย และที่สำคัญคือ การสั่งงานให้กล้ามเนื้อหดตัว ต้องใช้เวลามากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงผลการแข่งขันกีฬาได้ การเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อดังกล่าวนี้ เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ 5-7 วันแรกหลังเกิดการบาดเจ็บ
• โครงสร้างภายในและรอบข้อต่อ ไม่ว่าจะเป็น เอ็นข้อต่อ เยื่อหุ้มข้อต่อ หรือกระดูกอ่อน จะมีความยืดหยุ่นลดลงหรือข้อต่อยึดติด ขยับได้น้อยลง เนื่องจากมีพังผืดไปยึดเกาะ ซึ่งกระบวนการยึดติดของข้อต่อนี้ เริ่มต้นภายหลังเกิดการบาดเจ็บผ่านไปประมาณ 4 วันเท่านั้น พังผืดที่มายึดเกาะเอ็นข้อต่อนี้ มีความเปราะ จึงทำให้เอ็นข้อต่อไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เกิดการฉีกขาดซํ้าได้ง่าย นอกจากนี้ หากเกิดภาวะบวมนานๆ จะทำให้ข้อต่อไม่มั่นคงส่งเสริมให้เกิดภาวะข้อเสื่อมขึ้นอย่างช้าๆ
• สำหรับตัวกระดูกเอง หากในระหว่างที่มีการบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถลงนํ้าหนักตัวได้เหมือนปกติ หรือไม่มีการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่บาดเจ็บอย่างเพียงพอ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการสูญเสียเนื้อกระดูก ทำให้กระดูกมีความแข็ง และความยืดหยุ่นลดลง จึงเปราะและหักได้ง่าย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ เริ่มเกิดขึ้น ภายหลังเกิดการบาดเจ็บผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์
• เส้นประสาท เป็นอีกโครงสร้างหนึ่งของร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บ แต่มักไม่ค่อยได้รับการดูแลรักษาเท่าที่ควร โดยการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะโดยตรงต่อเส้นประสาทหรือกับเนื้อเยื่อข้างเคียงที่อยู่ใกล้กับเส้นประสาท จะทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทขึ้นและมีพังผืดมาเกาะที่เส้นประสาท เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เส้นประสาทจะไม่สามารถเคลื่อนไหว ยืดหรือหดได้เหมือนปกติ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาได้
ดังนั้น การรักษานักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจึงแตกต่างจากการรักษาการบาดเจ็บในคนทั่วไป โดยนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บ ควรได้รับการรักษาทางการแพทย์ ควบคู่ไปกับการรักษาทางกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายให้กลับคืนสู่สภาพปกติ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเล่นกีฬาอีกครั้ง
การดูแลรักษานักกีฬาหลังจากได้รับการบาดเจ็บ หรือ rehabilitation จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายของนักกายภาพบำบัดเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องมีความเข้าใจเป็นอย่างดี ถึงการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อต่างๆ ภายหลังเกิดการบาดเจ็บแล้ว ยังต้องสร้างความมั่นใจให้นักกีฬาในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ส่วนของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนดูแลให้นักกีฬาที่จะสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้เหมือนเดิมโดยเร็ว และไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บซํ้าด้วย
การรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายทางกายภาพบำบัดนั้น จึงมีเป้าหมายเพื่อรักษาสภาพของกล้ามเนื้อ ข้อต่อกระดูก เอ็นและเส้นประสาทภายหลังเกิดการบาดเจ็บ ให้เป็นปกติมากที่สุดพร้อมๆ กันไป นักกายภาพบำบัดจะสร้างโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย เพื่อให้นักกีฬาสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายที่สร้างขึ้น มีความจำเพาะเจาะจงกับชนิดของกีฬา ตำแหน่งและระดับที่เล่น ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน  การออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายที่เหมาะสมกับแต่ละคนนั้นมีความสำคัญมาก เพราะว่าโดยธรรมชาติ เนื้อเยื่อของร่างกายจะมีการปรับตัวให้เข้ากับการใช้งาน หากโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงร่างกายโดยรวม ไม่พร้อมหรือสมบูรณ์เต็มที่สำหรับการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เป็นสาเหตุให้เล่นได้ไม่เต็มที่ที่สำคัญคือ นอกจากการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายเพื่อให้ร่างกายมีความพร้อม สำหรับการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาแล้ว หลังการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย นักกีฬาควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจประเมินเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และทำการแก้ไขเพื่อป้องกัน ไม่ให้นักกีฬาได้รับการบาดเจ็บซํ้าอีกในอนาคตด้วย เห็นไหมคะว่า วิทยาการด้านการแพทย์สมัยนี้ ไปไกลจริงๆ ดังนั้น นักกีฬาที่ได้รับการบาดเจ็บ อย่าหมดหวังนะคะ ชัยชนะไม่มีที่สิ้นสุดนั้นเป็นไปได้ ถ้าคุณใส่ใจค่ะ


Victory Never Dies
I had to borrow this phrase from that famous brand for this article because I want to make a point about how important it is for the athletes to recover 100% after injuries. Otherwise, their career and fortune may disappear right before their eyes.
Injuries will have the following effects on athletes:
• Muscle atrophy will cause a decrease in strength and flexibility. The muscle will also become stiff and tired easily. Most importantly, it will take a longer time for muscle contraction, which can be detrimental in athletic competition. Such change in the muscle will begin within 5 – 7 days of the injury.
• The structures around the joints such as the soft tissues and soft bones will have less flexibility or lock up due to fibrosis. The buildup of extra connective tissues occurs around 4 days after the injury and will weaken the existing ligament, causing it to be injured easily. If the inflammation persists, the ligament will no longer be enduring and can slowly cause deterioration of the joints.
• As for the bone, since injury allows for less movement, less pressure or less weight than normal, bone loss will occur, thereby resulting in less flexibility and strength to the bone. It will become more brittle over time. Such changes can occur within two weeks of the injury.
• The nerve is another structure that is affected by injury, but it does not receive as much attention as other tissues. When an injury occurs directly on the nerve or the tissue around the nerve, it will cause inflammation and fibrosis on the nerve.
When there is body movement, the nerve will not move with the body and will stir up pain instead. Therefore, it is crucial to their career that athletes fully recover before they strut on their field after injuries. Rehabilitation plays an important role in this case. Skilled therapists can help an athlete design a program that is tailored to the kind of sport and need for each athlete. More importantly, once the injury is fully healed, the therapist should recommend how to be in ‘ship shape’ to prevent future injuries.
There’s hope yet for all injuries, so don’t give up… your victory never dies if you care.

ธนูปักเข่า…หลีกเลี่ยงได้

“ฉันเคยออกกำลังกายทุกวัน จนกระทั่งโดนธนูปักหัวเข่า เลยต้องเลิก” อาจเป็นแค่คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นอีกต่อไป ถ้าคุณไม่อยากเลิกออกกำลังกาย หรือเลิกเล่นกีฬาจริงๆ
ช่วงนี้คงได้ยินกันบ่อยๆนะคะ สำหรับข้อแก้ตัวนี้ ซึ่งมีที่มาจากวีดีโอเกม The Elder Scrolls V ในตอนที่ 5 นี้มีชื่อว่า Skyrim มีตัวละครที่เป็นทหารยามประจำเมือง ซึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไร นอกจากประกอบฉากแต่ถ้าตัวละครของผู้เล่นเดินไปใกล้ๆ หรือเดินผ่าน จะได้ยินประโยคนี้มากที่สุด “I used to be an adventurer like you, then I took an arrow in the knee.”หมายความว่า เมื่อก่อนพวกเขาก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกัน พอวันหนึ่งโดนธนูปักที่เข่า ก็เลยต้องมาเป็นยาม ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะเพราะอายที่เป็นแค่ยาม เลยขอโม้สักหน่อย คนเล่นเกมนี้คงจะทราบอยู่แล้วว่า ตัวเล่นของคุณโดนกระหนํ่าด้วยลูกธนูเยอะแยะ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คงเพราะเป็นเกมยอดนิยม พอเล่นกันเยอะๆ ได้ยินซํ้าๆ กันมากๆ เลยกลายมาเป็นคำล้อเลียนติดปากเวลาใครพูดถึงอดีตที่ไม่จริง แต่อย่าเอามาเป็นข้อแก้ตัวในการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่คุณชื่นชอบก็แล้วกันนะคะ รู้ๆ กันอยู่ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาพ แต่หลายๆ คนที่ออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาเป็นประจำอาจจะเคยมีการบาดเจ็บ แล้วไม่รักษาให้ดี เลยต้องเลิกเล่นไป
รศ.นพ.ชาติชาย ภูกาญจนมรกต ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์กีฬา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ได้สละเวลามาให้ความรู้เรื่องการดูแลตัวเองให้ดีในการออกกำลังกาย และเล่นกีฬา อาจารย์เชี่ยวชาญด้านการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา Sports Traumatology เลยล่ะค่ะ
อาจารย์บอกว่า ความจริงแล้ว การบาดเจ็บในการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาสามารถป้องกันและรักษาได้ด้วยตัวคุณเองเพราะส่วนใหญ่แล้ว การบาดเจ็บจะเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่รุนแรง เช่น การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็น ซึ่งมาจากอุบัติเหตุ หรือ การทำท่าใด ซํ้าๆ กัน ถ้าปล่อยปละละเลยไม่รักษาให้หายสนิท คงไม่ต้องมาแก้ตัวแบบทหารยาม Skyrim แต่จะกลายเป็นเรื่องจริงเลยทีเดียวล่ะค่ะ
การบาดเจ็บนี้ มีสามระดับตามความรุนแรงด้วยกัน
• ระดับที่หนึ่ง คือ การบาดเจ็บที่มีการยืดของเส้นเอ็น มักจะเกิดจากการใช้งานที่มากเกินไป หรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยจะมีอาการเจ็บเป็นอาการหลัก และอาจจะมี บวม แดง ร้อนร่วมด้วย เส้นเอ็นยืดนี้เพียงพันผ้าไว้สัก 1-2 อาทิตย์ ก็จะหายเจ็บ แต่ไม่หายขาด เส็นเอ็นนี้ต้องมี 6-8 สัปดาห์  ถึงจะหายดีจนกลับไปเล่นกีฬาใหม่ได้
• ระดับที่สอง คือการบาดเจ็บที่มีการฉีกขาดของเส้นเอ็นบางส่วน อาจเกิดจากการฉีกขาดของเส้นเอ็น หรือการอักเสบของกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยมีอาการบวม แต่ยังเดินได้
• ระดับที่สาม คือการบาดเจ็บที่มีการฉีกขาดของเส้นเอ็นทั้งหมด ลักษณะนี้ผู้ป่วยจะมีอาการบวมมาก ข้อที่ได้รับการบาดเจ็บจะหลวม เดินไม่ได้เลยเรื่องอาการบาดเจ็บเหล่านี้ อาจารย์เน้นยํ้ามากเลยว่า ดูเหมือนจะหายแล้วเพราะอาจไม่มีอาการเจ็บใดๆ แต่ยังไม่หายสนิท อาจารย์ให้คิดง่ายๆ ว่าการอักเสบก็เหมือนการเป็นแผล หายเจ็บ แผลสมานกันดีแล้วแต่ยังมีรอยให้เห็น คนที่รักษาตัวเองดีๆ รอยแผลนั้นก็จะจางลง จนเกือบมองไม่เห็น คนที่มักปล่อยปละละเลย แผลนั้นจะกลายเป็นแผลเป็น และเป็นจุดอ่อนที่เจ็บซํ้าได้อีก
คงได้ยินกันบ่อยๆ นะคะ ว่านักกีฬาที่บาดเจ็บเรื่องเส้นเอ็น ต้องถูกพักไม่ให้เล่นกีฬาเป็นเดือนๆ ทั้งๆ ที่ดูภายนอกก็เห็นปกติดี นักกีฬาจะรู้ตัวดีว่า ถึงไม่เจ็บแล้วแต่ยังไม่สามารถเล่นกีฬาได้ครบทุกอุปกรณ์ เพราะร่างกายยังไม่พร้อม ต้องให้หมอตรวจดูให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเป็นหนักกว่าเก่า อาจารย์บอกว่า นักกีฬาตัวเก่งที่บาดเจ็บอยู่ แต่ถูกกดดันให้ออกไปเล่นเพื่อช่วยกู้ทีมของตัวนั้น ไม่เป็นผลดีเลย เพราะอาจบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก และต้องพักรักษาตัวนานกว่าเดิมอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา สามารถป้องกันได้ง่ายๆ หากใส่ใจ อาจารย์ชาติชาย บอกว่าจะเล่นกีฬาร่างกายต้องพร้อมอุปกรณ์ในการเล่นต้องเหมาะสมกับร่างกาย ที่สำคัญต้องเคารพกฏ กติกา มารยาท ในการเล่นกีฬา มิฉะนั้นตัวเองอาจบาดเจ็บ หรือไปทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บไปด้วย
กีฬาพวก contact sport หรือ กีฬาที่ต้องมีการถูกตัวผู้เล่นคนอื่น เช่น ฟุตบอล รักบี้ บาสเก็ตบอล พวกนี้เป็นกลุ่มที่มีการบาดเจ็บมากที่สุด อาจารย์พูดขำๆ ว่าเพราะบ้าพลัง และอยากชนะเลยมีการขี้โกงกันบ้าง เราก็เห็นๆ กันบ่อยน่ะนะคะ เวลาที่มีการแอบดึงเสื้อ หรือ บล็อกให้ล้มแบบผิดกฏ อาจารย์บอกว่าช่วงอายุที่บาดเจ็บมากที่สุด คือ กลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากใจร้อนและไม่ค่อยระวังตัว รองลงมาคือผู้ใหญ่ ซึ่งจะบาดเจ็บไปตามวัย เช่น กล้ามเนื้อตึง หรือข้อเข่าเสื่อม ต่างๆ นานา ส่วนเด็กๆ นอกจากจะหายเร็วแล้ว ยังไม่ค่อยมีอุบัติเหตุเรื่องเอ็นหรือกล้ามเนื้อ เพราะยังวิ่งไม่เร็ว ข้อแนะนำของอาจารย์ในการป้องกันอุบัติเหตุที่ว่ามานี้ คือให้ทำ stretching 5 นาที ก่อนและหลังเล่นกีฬา หรือ ออกกำลังกายค่ะ ซึ่งคุณควร stretch หรือ ยืดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ หลัง ต้นขา น่อง ไหล่ และต้นคอ ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะคะว่าอยู่ที่ไหน และต้องทำอะไรบ้าง เอาแบบง่ายๆ แล้วกันนะคะทำ ได้ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายเลยล่ะค่ะ
• ท่าที่ 1 บริหารคอ ยืนตรงศีรษะอยู่แนวตรง ค่อยๆ เอียงศีรษะไปทางขวามือ จนกระทั่งเกิดตึงคอด้านซ้ายมือให้นาน 10 วินาที หลังจากนั้นกลับท่าตรงแล้วเอียงศีรษะไปทางซ้ายจนตึงด้านขวา 10 วินาที
• ท่าที่ 2 บริหารไหล่ ยืนเท้าแยกกัน ยื่นมือทั้งสองข้างไปข้างหลัง นิ้วหัวแม่มือชี้ลงพื้น ค่อยๆ เอามือเข้าหากันจนกระทั่งเกิดความตึงที่หัวไหล่ค้างไว้ 10 วินาที แล้วจึงกลับท่าเดิม ทำซํ้าสัก 2-3 ครั้ง
• ท่าที่ 3 บริหารหลัง นั่งบนพื้น เท้าขวาเหยียดตรง เอาเท้าซ้ายข้ามเข่าขวา มือซ้าย ยันพื้นให้เอาข้อศอกมือขวามาแตะเข่าซ้าย เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มตึงบริเวณหลังให้คงท่านั้น 10 วินาที แล้วสลับข้าง
• ท่าที่ 4 บริหารต้นขา ยืนตรงเท้าชิดกัน มือข้างหนึ่งอาจจะจับเก้าอี้เพื่อทรงตัว มืออีกข้างหนึ่งจับบริเวณข้อเท้า ดึงมาข้างหลังจนกระทั่งกล้ามเนื้อต้นขาตึง ดึงค้างไว้ 10 วินาที ทำข้างละ 2 ครั้ง
• ท่าที่ 5 บริหารน่อง ยืนห่างกำแพง 1-2 ฟุต มือยันกำแพง แขนเหยียดตรงถอยเท้าขวาไปข้างหลัง 2 ฟุต เท้าขวาวางบนพื้นทั้งเท้า เข่าซ้ายงอเล็กน้อยส่วนเข่าขวาตึง จะทำให้รู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อน่อง ถ้าไม่รู้สึกตึงให้ถอยเท้าขวาอีกจนรู้สึกตึงคงท่านั้นไว้ 10 วินาที ให้งอเข่าขวาลงเล็กน้อยและคงตำแหน่งนั้นไว้ 10 วินาที ให้ทำอีกครั้งโดยสลับเท้า
อาจารย์ชาติชายบอกว่า การทำ stretching ขึ้นอยู่กับกีฬา หรือการออกกำลังกายที่จะเล่น ผู้เล่นต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ เพื่อจะได้เตรียมตัวและดูแลตัวเองได้ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว แต่รวมถึงเสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่จะใช้ด้วยนะคะ อาจารย์บอกว่า เจ็บป่วยเรื่องเอ็น และกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่ซ่อมให้กลับไปเหมือนเดิมได้ แต่อย่าปล่อยไว้นานเกินไป เพราะจะยิ่งบาดเจ็บมาก และไปดึงอวัยวะส่วนอื่นให้เจ็บไปด้วย ที่ซ่อมไม่ได้จริงๆ ณ วันนี้คงจะมีแต่หมอนรองเข่า เนื่องจากเย็บไม่ค่อยติดและเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ดูแลกันให้ดีๆ นะคะ สงสัยอะไรตรงไหน มาปรึกษาอาจารย์ชาติชาย ได้เลยค่ะ อย่าเก็บไว้นาน ไม่อย่างนั้นคงต้องหาข้อแก้ตัวที่ดีกว่าโดนธนูปักเข่านะคะ

Easy Ways to Avoid Sports Injuries
According to Chathchai Pookarnjanamorakot, M.D., Orthopedic Surgery – Sports Medicine and Arthroscopy specialist at Samitivej Sukhumvit, there are 3 levels / types of sports injuries:
• Muscle strains– only require patients to apply bandage for 1-2 weeks but stop them from returning to sports for 6-8 weeks to allow complete healing.
• Muscle tears partially – the wound will be swollen but the patients can still walk.
• Ligament tears completely –the patients won’t be able to walk at all.
Some injuries may seem like they have healed, but in fact they have not healed fully and can cause further injuries. Ajarn Charthchai said that muscle injuries are similar to fresh wounds but can’t be seen because they are inflicted inside the body. In any case, once the wound is healed, it also requires proper care afterwards. If you are careful, you will likely avoid having a scare. If not, you will not only have a scare, but that part of your skin will be weaker than the rest. It’s the same for muscle injuries, without proper care after initial healing they won’t be properly healed and can be injured again. Repeat injuries required more time to heal.
Contact sports are the ones that cause the most injuries. Players must be physically fit and ready, use the right gears that are suitable for them and learn the rules to prevent injuries to themselves or others as well.

Teenagers are more prone to suffer sports injuries from accident than other age groups due to their high energy, impatience and not being fully on guard. Adults’ accident depends on the fitness of their body which comes with age.
Ajarn Char thchai recommended warm-up and cool-down before and after exercise or playing any sports. He advised that athletes should study and find out what is suitable for them. Basic stretching for neck, shoulder, back, thigh and calf are a good start for any exercise. If you are not sure how it works, please ask your physician or trainer who understands your body.

ความรัก…ที่ลงตัวของแบงค์และนิหน่า

หนึ่งในงานแต่งงานแห่งปีเมื่อปีที่แล้วคงจะต้องมีงานของแบงค์-พชร ปัญญายงค์ กับนิหน่า-สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา รวมอยู่ด้วยแน่ๆ และปีนี้หนึ่งในเบบี้ปีมังกรทองก็ต้องมีลูกของทั้งสองรวมอยู่ด้วยแน่ๆ เหมือนกัน!
ใช่ค่ะ ครอบครัวปัญญายงค์กำลังตื่นเต้นกับข่าวการตั้งครรภ์ของคุณนิหน่ากันใหญ่เลยค่ะ แหม…ไอเกิล รู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ ที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ mom & dad to be คู่นี้นะคะ ทีแรกที่เชิญทั้งคุณแบงค์ และคุณนิหน่ามาขึ้นปก เพราะทั้งสองคือคู่หวานที่เราชื่นชมอยู่แล้ว แต่ไม่นึกว่าเราจะได้โบนัสข่าวดีของทั้งคู่ด้วยนะคะ
“นิหน่าตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนแล้วค่ะ หลังจากใช้เวลาในการปล่อยตามธรรมชาติมา 6 เดือน แต่ก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ กังวลใจมากเพราะเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติจึงได้มาปรึกษาคุณหมอ คิดว่าจะเตรียมทำกิฟ แต่หลังจากหาหมอกลับไปไม่นานก็ท้อง” คุณนิหน่าเล่าให้เราฟังอย่างแจ่มใส
คุณแบงค์รีบเสริมทันทีว่า “ดีใจมากเลยครับ ลูกชายลูกสาว ผมได้หมดครับ” หลายคนคงชักจะเริ่มอิจฉาคู่นี้อีกแล้วใช่ไหมคะ เพราะการเดินทางของชีวิตคู่ ของคุณแบงค์และคุณนิหน่าดูช่างเป็นขั้นเป็นตอนตามธรรมชาติจริงๆ เลย ตั้งแต่การขอแต่งงานที่หวานซะไม่มี ตามด้วยงานแต่งงานที่ใช้ Theme น่ารักว่า “We’ll never walk alone” ซึ่งเลียนแบบสโลแกนของทีมลิเวอร์พูล ทีมฟุตบอลสุดรักของทั้งคู่ จนผ่านไปครบปีก็มีข่าวดีตามมาอีก
เรื่องขำๆ ของสามี-ภรรยาคู่นี้ คือ คุณภรรยาท้องแต่ไม่แพ้ท้อง มีเพียงผื่นขึ้นที่หน้าอย่างเดียว และไม่อยากรับประทานอาหารที่ตนเคยชื่นชอบ มีแต่คุณสามีที่รับเละ คือรับประทานสิ่งที่คุณภรรยาชอบอย่างเมามัน หิวตลอดเวลา สงสัยจะแพ้ท้องแทนภรรยา ทีแรกคุณนิหน่าเป็นกังวลว่าหน้าเธอขึ้นผื่นจะไม่สวย แต่จริงๆ แล้วเธอเปล่งประกายความสมบูรณ์ มีนํ้ามีนวลของคนที่กำลังจะเป็นแม่มากเลย แหม…คนสุขภาพดีนี่ ยังไงก็ดูดีนะคะ
การเตรียมตัวของคุณนิหน่าจะว่าเห่อก็ไม่เชิง เพราะดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เนื่องจากชอบกีฬาด้วยกันทั้งคู่ “ดูแลสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ ปกติตัวเองก็ใส่ใจมากอยู่แล้วตอนนี้มีเจ้าตัวเล็กมาเพิ่มยิ่งใส่ใจเข้าไปอีก แทบจะเทียบตารางสารอาหารเลยล่ะค่ะ” คุณนิหน่าอธิบายอย่างมั่นใจ อย่างนี้คุณหมอสูตินารีของคุณนิหน่าต้องปลื้มเป็นแน่แท้ทีเดียวเชียว ความจริงแล้ววันนี้เราตั้งใจให้คุณแบงค์และคุณนิหน่ามาทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกับอาจารย์หมอภาสกร วัธนธาดา นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาและการวิเคราะห์การเคลื่อนไหว เพราะทั้งคุณแบงค์และคุณนิหน่าชอบเล่นกีฬา เราเลยอยากลองดูสิว่าคนที่เล่นกีฬาเป็นประจำร่างกายเขามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน แต่เพราะคุณนิหน่าเพิ่งตั้งครรภ์เลยต้องงด
“การออกกำลังกายตอนนี้พักไว้ก่อน คุณหมอบอกในช่วง 2-3 เดือนแรก เป็นช่วงที่ต้องระวังครรภ์อย่างมาก อึดอัดมากเหมือนกัน เพราะตัวเองเป็นคน alert อยู่ตลอดเวลาแต่ตอนนี้ต้องอยู่นิ่งๆ ก่อนค่ะ” คุณนิหน่าตอบอย่างเสียดาย คุณแบงค์เลยต้องทดลองคนเดียว ถึงแม้คุณนิหน่าไม่ได้ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ด้วยเครื่อง HUMAC®Isokinetic dynamometer ในวันนี้ แต่อาจารย์หมอภาสกร ก็ให้คำแนะนำคุณนิหน่าว่า หลังคลอดและอยู่ในระหว่างให้นมลูกนั้น ถ้าคุณนิหน่าออกกำลังกายเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งให้นมลูกในทันที เพราะนํ้านมจะเปรี้ยว ควรพักประมาณ 30 นาทีก่อน แล้วจึงค่อยให้นมลูก คุณนิหน่าและคุณแบงค์ดีใจมากที่ได้รับคำแนะนำนี้ นัยว่าทั้งสองอ่านหนังสือกองพะเนินแล้วแต่ยังไม่เคยพบเคล็ดลับนี้เลย ซึ่งเหมาะกับคนชอบเล่นกีฬาอย่างคุณแม่นิหน่าเป็นอย่างมาก
อาจารย์หมอภาสกร ฝากบอกคุณแม่ที่ให้นมลูกแล้วคิดว่าลูกแพ้นมตัวเอง ลองสังเกตดูก่อนนะคะว่าเพราะเราออกกำลังกายอยู่แล้วลูกร้องอยากทานนมแล้ว เลยไม่ได้พักก่อน หรือพักแป๊บเดียว นํ้านมจะมีสภาพเป็นกรด ลูกก็จะยี้ทันทีค่ะ ลองดูนะคะ
ช่วงที่คุณแบงค์ทดสอบสมรรถภาพของกล้ามเนื้อกับอาจารย์หมอภาสกรอยู่นั้น คุณนิหน่าก็คอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง แต่ดูๆ เหมือนเธออยากไปลองซะเองเลย เครื่อง HUMAC®Isokinetic dynamometer มีเก้าอี้ให้นั่ง และต้องรัดเข็มขัดอย่างรัดกุมจนคุณแบงค์บอกว่าเหมือนนั่งอยู่ในยานอวกาศเลย ก็คงจะจริงอย่างคุณแบงค์ว่าเพราะระหว่างทดสอบจะมีเสียงนับแบบ countdown ด้วย
ผลการตรวจสภาพกล้ามเนื้อของคุณแบงค์สรุปว่ากล้ามเนื้อสมบูรณ์และสมดุลกันดี สมกับที่ชอบเล่นกอล์ฟ ไม่มีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บ เล่นได้ฉลุย เรารู้สึกทึ่งถึงความใส่ใจในสุขภาพของทั้งคุณแบงค์และคุณนิหน่าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอาจารย์หมอภาสกรจะพูดถึงกล้ามเนื้อกี่มัดๆ ที่คุณแบงค์ต้องดูแลให้ดีสำหรับการเล่นกีฬาสุดโปรดนั้น คุณแบงค์ก็เข้าใจดีหมด และโต้ตอบคุณหมอได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวน่าทึ่งมากจริงๆ ค่ะ
เราสงสัยจริงๆ ว่าหลังคลอดแล้ว คุณนิหน่าจะหายหน้าหายตาไปจากวงการหรือเปล่า “ถึงแม้มีลูก ก็ยังทำงานค่ะ ถ้าไม่ทำนิหน่าคงบ้าตายพอดี” เธอตอบอย่างน่ารักและขำตัวเอง ระหว่างที่เรากำลังพึมพำกันว่าเป็นคุณแม่มือใหม่จะรับไหวไหมนี่ ทั้งงานทั้งเบบี้คุณนิหน่าตอบทิ้งท้ายไว้ให้สาวๆ ตาร้อนผ่าวๆ ว่า “ไหวค่ะ แบงค์ดูแลนิหน่ามากขึ้น เอาใจมากขึ้น ตอนนี้ happy มากเลยค่ะ”
ไอเกิลต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแบงค์และคุณนิหน่าด้วยนะคะ น่าปลี้มใจกับครอบครัวปัญญายงค์จริงๆ ค่ะ ทุกอย่างลงตัวพอดีๆ อะไรจะปานนั้นคะ

อาการปวดที่พบได้บ่อยในคนทำงาน

Myofascial pain (MP) เป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่ง ที่ทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ส่วนใดส่วนหนึ่ง ของร่างกาย อาการที่พบได้คือจะมีอาการปวดที่กล้ามเนื้อจดุใดจุดหนึ่ง อาการปวดอาจจะเป็นปวดร้าว ตึง เจ็บ แปล๊บ ตึง ๆ หรือทำให้เจ็บเวลาขยับ อาจจะมีจุดที่กดเจ็บชัดเจนบริเวณกล้ามเนื้อที่มีอาการ เรียกว่า มี trigger point พบว่ามากกว่า 70% ของจุดนี้จะตอบสนองได้ดีด้วยการฝังเข็ม
ในบางคนไม่มีอาการปวดแต่ เมื่อทำการตรวจร่่างกายจะพบว่ามีความตึงของกล้ามเนื้อ
 และมีจุดที่กดเจ็บชัดเจน บางครั้งจะมีอาการคล้ายกับการปวดกล้ามเนื้อธรรมดา
แต่บางที่แตกต่างคือ ภาวะ MP นี้จะมีจุดที่เป็น trigger point ที่ชัดเจน
กล้ามเนื้อที่มีการเกร็งตัวเป็นเส้น จะเป็นจุดที่ทำให้ต่อไปกลายเป็น trigger point
ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีการเกร็งของกล้ามเนื้อแบบนี้จะไม่มีอาการ ปัจจัยกระตุ้นให้มีอาการ
 เช่น ความเครียด การใช้งานกล้ามเนื้อ ท่านั่งทำงาน ท่ายกของหรือท่านอนทีทำให้มี
การเกณ็งของกล้ามเนื้อ


อาการ  
ผู้ป่วยที่มี MP มักจะมีอาการนำมาด้วยอาการปวดเฉพาะที่ หรือ มีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อ
หรือข้อต่อ นอกจากนี้อาจจะมีอาการชาร่วมด้วย ลักษณะของการปวด อาจจะแตกต่างกัน
ไปในแต่ละส่วนของกล้ามเนื้อที่เป็น ในระยะแรกอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือการใช้งาน
ผิดวิธี เช่นการยกของ การเอี้ยวตัวบิดตัว หลายคนจะมีอาการจนทำให้หลับไม่สนิท
 มีอาการเวลาพลิกตัว ในหลายรายจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง หรืออาจจะทำ
ของหล่นง่ายกว่าเดิม


การตรวจร่างกาย  
การตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็เพียงพอต่อการให้การวินิจฉัยโรคนี้
จุด trigger point ที่ตรวจพบจะเป็นตัวสำคัญที่ประกอบการวินิจฉัย  โดยแต่ละคนก็จะมีจุดที่
เป็น trigger point ที่แตกต่างกัน เมื่อตรวจพบจุดที่เป็น trigger point แล้ว จะพบว่าจุดนั้น
มีกล้ามเนื้อแข็งกว่าจุดอื่น อาจจะตรวจง่าย ๆ ด้วยการค่อย ๆ กดไล่ไปบนกล้ามเนื้อบริิเวณ
ที่มีอาการปวด และจะเป็นจุดที่เมื่อกดไปจะเจ็บมากกว่าบริเวณอื่นด้วย ในบางรายอาจจะ
รู้สึกชาที่ผิวหนังตำแหน่งนั้นด้วย
ตัวบ่งชี้ที่บอกว่าเป็นจุด trigger point ได้แก่
  • มีจุดที่มีกล้ามเนื้อแข็งเกร็งกว่าจุื่อื่น
  • มีอาการเจ็บชัดเจนเมื่อมีการกดที่จุดนั้น
  • อาการเจ็บตำแหน่งนั้นทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อได้เต็มที่ 
สำหรับการตรวจเพื่อที่จะยื่นยัน อาจจะำทำหด้โดยการตรวจพิเศษ เช่นการตรวจด้วย
กระแสไฟฟ้า หรือการถ่ายภาพรังสีแบบพิเศษ ซึ่งในทางปฏิบัติไม่มีความจำเป็นใน
การตรวจเหล่านี้


สาเหตุ
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิด MP เช่น การที่เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลัน
จากการใช้งานผิดท่าทาง บ่อยครั้งที่พบในคนที่มีความยาวขาสองข้า้งไม่เท่ากัน
หรือมีโครงกระดูกที่ผิดรูปร่าง รวมทั้งในคนที่นั่งทำงานกับโต๊ะทั้งวันและมีท่านั่งที่
ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือการทำงานที่อยู่ในท่าเดิมนาน ๆ ก็ทำให้มีอาการได้
 ภาวะที่เกี่ยวข้องจากเรื่องสารอาหารเช่น ภาวะโลหิตจาง การขาดแคลเซียม
โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามิน B1 – 6 – 12 ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นเช่น โรคติดเชื้อเรื้อรัง การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
ไทรอยด์ต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ และกรดยูริคในเลือดสูงผิดปกติ


การรักษา การทำกายภาพบำบัด  
เป้าหมายของการทำกายภาพ เพื่อแก้ไขการหดสั้นเกร็งของกล้ามเนื้อโดยการยืดกล้ามเนื้อ
สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และแก้ไขลักษณะท่าทาง ท่านั่ง ท่ายืน ให้เหมาะสม
การแก้ไขภาวะที่ความยาวของขาสองข้างไม่เท่ากัน แก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการใส่อุปกรณ์ที่
หนุนส้นเท้าให้สูงขึ้น
ยังมีเทคนิคอีกหลายอย่างที่นำมาใช้ในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
  • Indomethacin phonophoresis คือการใช้ยาลดการอักเสบผ่านทางผิวหนังด้วยคลื่นเสียง
  • การนวด และการบริหารร่างกาย
  • การยืดกล้ามเนื้อ
  • การกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า
การใช้เครื่องอัลตราซาวน์
อาชีวบำบัด Occupational Therapy
เป็นการช่วยให้มีท่าทาง การจัดอุปกรณ์สำนักงาน ความสูงของเก้าอี้และโต๊ะ
การจัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม จะช่วยแก้ปัญหา MP ได้เช่นเดียวกัน

 การฉีดยาลดการอักเสบหรือ steroid ที่ trigger point
ในบางกรณีจะให้การรักษาโดยการฉีดยาเข้าตำแหน่ง trigger point เพื่อลดการปวดหรือ
การอักเสบบริเวณนั้น ซึ่งจะให้ผลการรักษาที่ดี แต่อาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเช่น
การมีเลือดออก การติดเชื้อหรือมีการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดเส้นประสาทได้

การรักษาด้วยยา 
ยาคลายกล้ามเนื้อและยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ NSAIDs เช่น Ibruprofen, Naproxen,
diclofenac จะเป็นการรักษาที่เสริมจากการรักษาข้างต้น การใช้ยาที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ
ในขนาดต่ำ ๆ เช่น amitriptyline สามารถช่วยได้ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
หรือเรื่องความเครียด

 การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น
  • การฝังเข็ม พบว่าได้ผลดีสำหรับ MP เช่นกัน