วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

การดูแลรอยคล้ำรอบดวงตา

สาเหตุ

สาเหตุที่ทำให้มีรอยคล้ำและถุงใต้ตา เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ที่สำคัญก็คือ
เมื่อทราบแล้วว่าอะไรที่เป็นปัจจัยที่สามารถหลีกเลี่ยงหรือแ้ก้ไขได้ก็ควรจะแก้ไขปัจจัยนั้น
หลายคนมีปัญหานี้เนื่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้
เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้แก่

- อ่อนเพลีย พักผ่อนนอนไม่พอ  
การนอนกไม่พอหรือว่าเหนื่อยเพลียเกินไป จะทำให้ผิวหนังซีดลง ทำให้สามารถเห็นเส้น
เลือดดำทีอยู่ใต้ผิวหนังได้ชัดขึ้น บางครั้งอาจเห็นเป็นสีคล้ำ ๆ ได้
- ภาวะโภชนาการ
การขาดสารอาหาร หรือได้รับอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด
การที่ผิวรอบ ๆ ดวงตามีสีเปลี่ยนไปได้
- ความเครียดและการสูบบุหรี่
ชีวิตที่เร่งรีบ การต้องใช้เวลา ๆ หลาย ๆ ชั่วโมงอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ทำให้มีอาการนี้
และจะสัมพันธ์กับการที่คุณนอนไม่หลับ หรือนอนไม่พออีกด้วย
- พันธุกรรม
เช่นเดียวกับเรื่องเส้นเลือดขอดที่ขา การที่มีรอบตาดำมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมได้ ถ้ามี
คนในครอบครัวที่เป็นแบบนี้ คุณก็มีโอกาสที่จะเป็นได้เช่นเดียวกัน ผิวหนังรอบดวงตาค่อนข้าง
บาง เมื่อเลือดผ่านไป เส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังจะทำให้เห็นรอยคล้ำขึ้นมา ถ้าผิวคุณยิ่งบาง
ซึ่งเป็นพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมา ก็จะทำให้เห็นรอยคล้ำได้ง่ายขึ้น
- การได้รับแสงแดด
แม้กระทั่งในคนที่ผิวสีค่อนข้างเข้ม การได้รับแสงแดด โดยเฉพาะในบ้าน เรา จะทำให้มีเม็ด
สี melanin มากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งที่รอบ ๆ ดวงตาก็เช่นเดียวกัน
- ภูมิแพ้ หอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนัง
ภาวะเหล่านี้จะทำให้มีอาการคันรอบ ๆ ดวงตา ทำให้มีรอยคล้ำรอบตา เนื่องมาจากการเกา
การขยี้ตา คนที่เป็นภูมิแพ้มาก ๆ จะเห็นได้ชัด รวมถึงการแพ้อาหารบางประเภทก็ทำให้มีรอย
คล้ำได้
- ยาบางชนิด
จะเป็นกลุ่มยาที่ทำให้มีการขยายตัวของเส้นเลือด เพราะผิวหนังที่ค่อนข้างบางนั้น
เมื่อเส้นเลือดดำขยายตัวจะทำให้เห็นชัดมากขึ้นกว่าบริเวณอื่น
- การตั้งครรภ์และการมีประจำเดือน
ผิวหนังจะซีดลงในช่วงนั้น เนื่องจากการเสียเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ทำให้เส้นเลือดดำ
ที่อยู่ใต้ผิวหนังเห็นชัดขึ้น
- อายุ
สำหรับคนที่มีแนวโน้มที่จะมีรอยคล้ำรอบดวงตา เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะทำให้เห็นได้ชัดเจน
ขึ้นและอาจเป็นแบบถาวร รอยเหี่ยวย่นรอบใต้ตา ก็จะยิ่งทำให้เห็นชัดเจนขึ้น


การดูแลตนเองเพื่อลดและป้องกันรอยคล้ำรอบดวงตา 
- การนอนหลับให้เพียงพอ
เรื่องการนอนหลับให้เพียงพอ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่เฉพาะการดูแลดวงตา
แต่กับสุขภาพก็สำคัญเช่นกัน

- การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/156791_185729881438761_153027324709017_699641_5103176_n.jpg


ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอืน
- การประคบด้วยถุงชา
วิธีนี้ จะเป็นการใช้ถุงชา แช่ในน้ำเย็นที่มีสารสกัดจากแตงกวา แล้วนำมาวางไว้ที่ตา
ประมาณ 15-20 นาที วันละครั้ง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดการบวมรอบ ๆ ดวงตาได้
- การกดรอบ ๆ ดวงตา Acupressure


เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำง่าย ๆ โดยการหลับตาและใช้นิ้วนางกดไป
บริเวณใต้ดวงตาข้างหนึ่งจากมุมด้านในออกไปจนมุมด้านนอก  โดยกดแต่ละตำแหน่ง
ประมาณ 3 วินาที ประมาณ 10-15 ครั้งแล้วก็ให้ทำกับอีกข้าง
- การใช้ครีมรอบดวงตา
http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/148286_185728568105559_153027324709017_699637_1291931_n.jpg
การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินทั้งสอง คือ Retinal (Vitamin A) และ Vitamin K จะช่วย
ลดริ้วรอย และลดรอยคล้ำได้ หรือใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Vitamin C ซึ่งมีสาร antioxidant
ก็ได้ผลดีเช่นกัน
- การประคบเย็นด้วยแตงกวา หรือ มะเขือเทศ

เตรียมแตงกวา หรือมะเขือเทศ ที่ฝานบาง ๆ แช่ตู้เย็นไว้ มาประคบที่ตาประมาณ 10 นาที
จะช่วยลดการบวมและลดรอยคล้ำใต้ตาได้ จากการหดตัวของเส้นเลือด
- การใช้ moisturizer และการใช้ sunscreen เป็นประจำ
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตาหรือไม่มี การที่ใช้ Moisturizer และ ครีมกันแดด
เป็นประจำเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว


ที่เขียนมา หมอหมีทำได้แค่ นอน กับ กิน
ได้ทาครีมบ้าง แต่ให้ทำบ่อย ก็ขี้เกียจครับ แต่สาว ๆ ทั้งหลายสนใจวิธีไหนเชิญตามสะดวก
แล้วมาบอกผลกันบ้างนะครับ
จาำก www.facebook/drcarebear

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น