ฤดูฝนแบบนี้ เมนูตั้งโต๊ะมักจะมีเจ้าเห็ดหน้าตาแปลกๆ สลับกันขึ้นมาให้เราได้เอร็ดอร่อยกันแทบทุกมื้อกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี ชาวจีนและชาวญี่ปุ่น นิยมนำเห็ดมาปรุงเป็นนํ้าแกง นํ้าชา ยาบำรุงร่างกาย และ ยารักษาโรคต่างๆ ทางยุโรปนำไปปรุงเป็นซุป พี่ไทยอย่างเราก็ขอแจม ด้วยการนำมาผสมในแกงต่างๆ รวมถึง ผัด ต้ม จิ้มนํ้าพริก ช่วงกินเจเห็ดถูกนำมาใช้ปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์ เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม เห็ดกระดุมหรือแชมปิญอง เห็ดนางรมหรือเห็ดออรินจิ เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดหูหนู เห็ดหลินจือ
การบริโภคเห็ดนั้น ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสสุขภาพที่ช่วยโปรโมทสรรพคุณของเห็ดที่ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยในการต้านมะเร็งหลายๆ ชนิด แถมเห็ดบางชนิดรสชาติใกล้เคียงเนื้อสัตว์อีกต่างหาก สามารถนำมาปรุงอาหารให้อร่อยได้หลายวิธี ทั้ง ต้ม ผัด แกง ยำ ย่าง หรือทอด จึงดัดแปลงไปได้หลายสิบเมนูเลยทีเดียว
แต่ถ้านำเห็ดอย่างน้อย 3 ชนิดๆ ใดก็ได้มาปรุงเป็นอาหาร ความมหัศจรรย์จะเกิดขึ้น เรียกต่อๆ กันมาว่าเป็น “เมนูเห็ดล้างพิษ” จะเป็นเห็ดสด หรือ เห็ดแห้งก็ได้ นำมาปรุงอาหารแล้วกินได้ทั้งเนื้อเห็ด และนํ้าต้มเห็ดแล้วจะได้โปรตีนจากเห็ดที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าเนื้อสัตว์ ประโยชน์ของเห็ดสามอย่างเมื่อนำมารวมกันปรุงอาหาร จะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างในตับ ช่วยบำรุงตับ ลดอนุมูลอิสระที่จะเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง… เขาเล่าขานกันมาว่าอย่างนั้น
ซุปเห็ดล้างพิษนั้น วิธีทำก็แสนจะง่าย พวกรักสุขภาพมือใหม่ไม่ค่อยได้เข้าครัวก็ทำได้ เครื่องปรุงมีแค่ 6 อย่างเท่านั้นเอง คราวนี้ขอเลือก เห็ดยอดนิยมของคนไทย อันได้แก่ เห็ดหูหนูและเห็ดหอมสด กับเห็ดออรินจิ ซึ่งเดิมเป็นเห็ดนางรมพื้นเมืองที่ขึ้นในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ต่อมาเริ่มแพร่หลายเข้าไปในเอเซียตะวันออกและก็ฮิตมากๆ ในบ้านเราแล้วก็ มะเขือเทศท้อ เกลือ พริกไทย
เริ่มจาก หั่นเห็ดหูหนูซอยให้เป็นเส้นยาวๆ ไม่ต้องบางมาก หั่นเห็ดออรินจิเป็นท่อนเล็กๆ ส่วนเห็ดหอมสดเลาะเอาก้านแข็งๆ ออกมะเขือเทศท้อหั่นเป็นเสี้ยวๆ เตรียมเสร็จแล้วพักไว้ ต้มนํ้าให้เดือด ใส่เห็ดทั้ง 3 ลงไป ต้มพอสุก ใส่มะเขือเทศท้อ เกลือ และพริกไทย ลงไปเป็นตัวปรุงรส กะๆ เอาปริมาณและรสชาติตามใจชอบ เคี่ยวต่อไปอีกสักพักให้ความหวานจากมะเขือเทศท้อออกมา เสร็จแล้วปิดไฟ ตักยกเสิร์ฟได้เลย
ซุปเห็ด 3 สหายสลายพิษ ที่ยกมา หน้าตาใสซื่อ แต่รสชาตินั้นขอบอกว่าเกินคาด เห็ดหอมสด เนื้อนุ่มเหนียว และเห็ดหูหนู เนื้อกรุบกรอบ อร่อยคุ้นลิ้นคนไทยอยู่แล้ว ส่วนเห็ดออรินจิที่กำลังมาแรงนั้น เนื้อทั้งขาว ทั้งแน่นและมีรสหวานนิดๆ ว่ากันว่า ถ้าได้รับการปรุงอย่างถูกวิธีจะมีรสเหมือนหอยนางรมจริงๆเลยทีเดียว เราจึงได้ความอร่อยของเห็ด 3 อย่างที่รสชาติต่างกัน ในนํ้าซุปใสหวานนิดๆ เค็มน้อยๆ พร้อมความเผ็ดร้อนอ่อนๆ ของพริกไทย … Veggie ล้วนๆ แบบนี้ ย่อยง่ายและไม่อ้วนแน่ๆ สำหรับคุณๆ ที่ชอบรสจัดจ้าน ก็ทุบพริกขี้หนูสวน แล้วบีบมะนาวใส่ลงไป กลายเป็นต้มยำเห็ด 3 สหายก็ยังได้อยู่ รสอร่อย ทำแสนง่าย และดีต่อสุขภาพขั้นเทพแบบนี้… ไม่ลองไม่ได้แล้ว
ขอขอบคุณร้านทำเสื้อทำสวน 081-843-9628 เดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีช่องนนทรี ออกช่องทางเดิน 1 หน้าปากซอยจะเห็นชื่อร้าน เดินเข้ามาประมาณ 20 เมตร ร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
Tips คุณประโยชน์ของเห็ด
เห็ดหอม บำรุงสมอง ลดคอเลสเตอรอล ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ชะลอความชรา เห็ดออรินจิ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ มีโปรตีน และมีคลอเรส
เตอรอลตํ่า เห็ดหูหนู ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรง ไม่เกิดอาการหลอดเลือดตีบตัน ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่ตึงเครียดให้คลายตัว ทำให้เกิดความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า เพราะเห็ดหูหนูช่วยชะล้างและบำรุง เสริมสร้างโลหิต ช่วยบำรุงสายตา บำรุงตับ บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส
เห็ดหอม บำรุงสมอง ลดคอเลสเตอรอล ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ชะลอความชรา เห็ดออรินจิ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ มีโปรตีน และมีคลอเรส
เตอรอลตํ่า เห็ดหูหนู ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรง ไม่เกิดอาการหลอดเลือดตีบตัน ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่ตึงเครียดให้คลายตัว ทำให้เกิดความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า เพราะเห็ดหูหนูช่วยชะล้างและบำรุง เสริมสร้างโลหิต ช่วยบำรุงสายตา บำรุงตับ บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส
วิธีเลือกเห็ด
เห็ดออรินจิ ให้เลือกดอกที่มีสีขาวสะอาด กลิ่นไม่แรง เนื้อแน่นมากๆ ส่วน เห็ดหอม ให้เลือกเห็ดใหม่ ซึ่งสีจะออกเทาเกือบดำ ไม่หมองคลํ้า เลือกที่มีเนื้อดอกหนาหน่อย เห็ดหูหนูที่ดี ดอกจะต้องใหญ่หนา สีเป็นมัน
วิธีเก็บรักษาเห็ดสด
หลังจากที่ซื้อมาแล้วต้องตัดรากและแคะเศษดินออกให้หมด อย่าให้เห็ดถูกนํ้า เพราะจะทำให้เน่าเสียเร็ว เก็บใส่ถุงพลาสติกเจาะรูให้ไอนํ้าระเหยออก แล้วรัดปากถุงให้แน่น เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา จะอยู่ได้ 1-2 วัน ไม่ควรเก็บไว้นานๆ เพราะจะเน่าและขึ้นรา ก่อนนำมาปรุงอาหารต้องล้างให้สะอาดโดยเฉพาะตามซอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น