โรคปวดกล้ามเนื้อกับการฝังเข็ม
โรคปวดกล้ามเนื้อเป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก ซึ่งนิยามของโรคนี้ คือ กลุ่มอาการปวดจากปมกล้ามเนื้อหดตัวซึ่งเป็นบริเวณที่ขาดเลือดไปเลี้ยงและแสดงอาการปวดออกมาเฉพาะแบบตามแต่กล้ามเนื้อนั้นๆ และทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการชา รวมถึงระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว ตาแดง นํ้าตาไหล
โรคนี้พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2.4 ต่อ 1 เท่า อายุที่พบบ่อยคือ ช่วงวัยทำงานเฉลี่ย 31-50 ปี และพบตามแกนกลางกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ เช่น คอ หลัง สะบัก อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาจะทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังและเกิดภาวะซึมเศร้าตามมา ทำให้การรักษายากขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้เจ็บกล้ามเนื้อ
- การบาดเจ็บรุนแรงเฉียบพลัน (Macrotrauma)เช่น อุบัติเหตุศีรษะกระแทก ทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่าไหล่หดเกร็ง หันคอไม่สุด รู้สึกมึน และวิงเวียนศีรษะ
- การบาดเจ็บไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง (Microtrauma) เช่น อยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน (เกร็งยักบ่าไหล่ ห่อไหล่) ยกของผิดท่า
- ความเครียด (Psychological stress) และความเร่งรีบในการทำงาน
- โรคเรื้อรังต่างๆ (Chronic illness) เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท โรคกระดูกสันหลังคด
- โรคของต่อมไร้ท่อ(Endocrine disorder) เช่น วันหมดประจำเดือน โรคไทรอยด์
- แร่ธาตุและสารอาหารไม่เพียงพอ (Nutritional inadequate) เช่น วิตามิน กรดโฟลิก
การวินิจฉัย
กดเจ็บเฉพาะที่ (Regional pain) คลำ ได้ก้อนเป็นปมแข็ง (Taut band) และแสดงอาการปวดร้าวไปตามอาการที่ปรากฏ (Reproducible refer pain) จำกัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ก่ออาการนั้น อ่านแล้วรู้สึกคุ้นๆ กันมั้ย
กดเจ็บเฉพาะที่ (Regional pain) คลำ ได้ก้อนเป็นปมแข็ง (Taut band) และแสดงอาการปวดร้าวไปตามอาการที่ปรากฏ (Reproducible refer pain) จำกัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ก่ออาการนั้น อ่านแล้วรู้สึกคุ้นๆ กันมั้ย
วิธีการรักษา
กำจัดปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็งที่เกิดขึ้นได้แก่
กำจัดปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็งที่เกิดขึ้นได้แก่
- การยืดกล้ามเนื้อ
- การนวด
- การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- การใช้เข็มคลายกล้ามเนื้อ
- การฉีดยาชาเฉพาะจุดไปที่บริเวณกล้ามเนื้อหดเกร็ง
การฝังเข็มกับโรคปวดกล้ามเนื้อ
มี 2 วิธี คือ การฝังเข็มแบบตะวันออกและแบบตะวันตก
มี 2 วิธี คือ การฝังเข็มแบบตะวันออกและแบบตะวันตก
การฝังเข็มแบบตะวันออก
เป็นการฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลของร่างกายหยินและหยาง มีการใช้จุดฝังเข็มทั้งจุดใกล้และจุดไกลเพื่อปรับสมดุล และอาจใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเพื่อช่วยลดอาการปวด
ข้อดี คือ ใช้รักษาโรคได้ประมาณ 30 กว่าโรคตาม WHO รับรอง
ข้อเสีย คือใช้เข็มปริมาณมากกว่าและต้องฝังแบบต่อเนื่องเพื่อปรับสมดุล ประมาณ 10 ครั้ง
เป็นการฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลของร่างกายหยินและหยาง มีการใช้จุดฝังเข็มทั้งจุดใกล้และจุดไกลเพื่อปรับสมดุล และอาจใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเพื่อช่วยลดอาการปวด
ข้อดี คือ ใช้รักษาโรคได้ประมาณ 30 กว่าโรคตาม WHO รับรอง
ข้อเสีย คือใช้เข็มปริมาณมากกว่าและต้องฝังแบบต่อเนื่องเพื่อปรับสมดุล ประมาณ 10 ครั้ง
การฝังเข็มแบบตะวันตก
เป็นการฝังเข็มเฉพาะจุดที่เป็นปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ขาดเลือดไปเลี้ยง ดังที่ได้กล่าวเบื้องต้น ทำให้เกิดการคลายตัวของปมกล้ามเนื้อและมีการเรียงตัวใหม่ของใยกล้ามเนื้อ รวมทั้งทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้นำพาของเสียที่เกิดขึ้นออกนอกกล้ามเนื้อ และมีการหลั่งโพแทสเซียมจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ช่วยระงับปวดได้ดีขึ้น
ข้อดี คือ ได้ผลดีมากในกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นปม (Myofascial pain syndrome) ใช้จำนวนเข็มน้อยกว่า ไม่ต้องใช้ไฟฟ้ากระตุ้น คลายปมกล้ามเนื้อได้ตรงจุดกว่า
ข้อเสีย คือ รักษาได้เฉพาะโรคปวดกล้ามเนื้อจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นปมเท่านั้น (Myofascial pain syndrome)
เป็นการฝังเข็มเฉพาะจุดที่เป็นปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ขาดเลือดไปเลี้ยง ดังที่ได้กล่าวเบื้องต้น ทำให้เกิดการคลายตัวของปมกล้ามเนื้อและมีการเรียงตัวใหม่ของใยกล้ามเนื้อ รวมทั้งทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้นำพาของเสียที่เกิดขึ้นออกนอกกล้ามเนื้อ และมีการหลั่งโพแทสเซียมจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ช่วยระงับปวดได้ดีขึ้น
ข้อดี คือ ได้ผลดีมากในกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นปม (Myofascial pain syndrome) ใช้จำนวนเข็มน้อยกว่า ไม่ต้องใช้ไฟฟ้ากระตุ้น คลายปมกล้ามเนื้อได้ตรงจุดกว่า
ข้อเสีย คือ รักษาได้เฉพาะโรคปวดกล้ามเนื้อจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นปมเท่านั้น (Myofascial pain syndrome)
ดังนั้นจึงควรเลือกรักษาให้เหมาะสมทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกายนะครับ และควรหาสาเหตุที่คุณปวด เจ็บกล้ามเนื้อให้ทะลุ เพื่อแก้ไขและหาวิธีป้องกันการกลับเป็นซํ้า ลองพิจารณาตัวคุณเองดังนี้
- ท่านั่งที่ทำงาน นั่งบิดๆ เบี้ยวๆ ผิดลักษณะหรือเปล่า อาจปรับโต๊ะ ปรับเก้าอี้ที่ทำงานให้ ถูกกับสรีระของคุณเองจะดีกว่า
- คุณเครียดมากไปหรือเปล่า ฝึกหรือหาวิธีผ่อนคลาย และอย่าทำงานหักโหมจนเกินไป
- การออกกำลังแบบแอโรบิก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นการผ่อนคลาย
- การออกกำลังกายเฉพาะส่วน จะช่วยเสริมเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้ทนต่องานมากขึ้น เช่น กล้ามเนื้อบริเวณบ่าไหล่ หลังส่วนบน
- การทำกายภาพบำบัด จะช่วยรักษาต้นเหตุของโรคบางกลุ่ม เช่น การดึงคอ ดึงหลังใน กลุ่มโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้ดี