วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การดูแลรอยคล้ำรอบดวงตา


สาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้มีรอยคล้ำและถุงใต้ตา เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ที่สำคัญก็คือ เมื่อทราบแล้วว่าอะไรที่
เป็นปัจจัยที่สามารถหลีกเลี่ยงหรือแ้ก้ไขได้ก็ควรจะแก้ไขปัจจัยนั้น หลายคนมีปัญหานี้เนื่องจากการ
ถ่ายทอดทางพันธุกรรม นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้แก่

อ่อนเพลีย พักผ่อนนอนไม่พอ 
การนอนกไม่พอหรือว่าเหนื่อยเพลียเกินไป จะทำให้ผิวหนังซีดลง ทำให้สามารถเห็นเส้นเลือดดำที
อยู่ใต้ผิวหนังได้ชัดขึ้น บางครั้งอาจเห็นเป็นสีคล้ำ ๆ ได้

ภาวะโภชนาการ
การขาดสารอาหาร หรือได้รับอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการที่
ผิวรอบ ๆ ดวงตามีสีเปลี่ยนไปได้

ความเครียดและการสูบบุหรี่
ชีวิตที่เร่งรีบ การต้องใช้เวลา ๆ หลาย ๆ ชั่วโมงอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ทำให้มีอาการนี้
และจะสัมพันธ์กับการที่คุณนอนไม่หลับ หรือนอนไม่พออีกด้วย

พันธุกรรม
เช่นเดียวกับเรื่องเส้นเลือดขอดที่ขา การที่มีรอบตาดำมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมได้
ถ้ามีคนในครอบครัวที่เป็นแบบนี้ คุณก็มีโอกาสที่จะเป็นได้เช่นเดียวกัน ผิวหนังรอบดวงตา
ค่อนข้างบาง เมื่อเลือดผ่านไป เส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังจะทำให้เห็นรอยคล้ำขึ้นมา
ถ้าผิวคุณยิ่งบางซึ่งเป็นพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมา ก็จะทำให้เห็นรอยคล้ำได้ง่ายขึ้น

การได้รับแสงแดด
แม้กระทั่งในคนที่ผิวสีค่อนข้างเข้ม การได้รับแสงแดด โดยเฉพาะในบ้านเรา
จะทำให้มีเม็ดสี melanin มากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งที่รอบ ๆ ดวงตาก็เช่นเดียวกัน

ภูมิแพ้ หอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนัง
ภาวะเหล่านี้จะทำให้มีอาการคันรอบ ๆ ดวงตา ทำให้มีรอยคล้ำรอบตา
เนื่องมาจากการเกา การขยี้ตา คนที่เป็นภูมิแพ้มาก ๆ จะเห็นได้ชัด
รวมถึงการแพ้อาหารบางประเภทก็ทำให้มีรอยคล้ำได้

ยาบางชนิด
จะเป็นกลุ่มยาที่ทำให้มีการขยายตัวของเส้นเลือด เพราะผิวหนังที่ค่อนข้างบางนั้น
เมื่อเส้นเลือดดำขยายตัวจะทำให้เห็นชัดมากขึ้นกว่าบริเวณอื่น

การตั้งครรภ์และการมีประจำเดือน
ผิวหนังจะซีดลงในช่วงนั้น เนื่องจากการเสียเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
ทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังเห็นชัดขึ้น

อายุ
สำหรับคนที่มีแนวโน้มที่จะมีรอยคล้ำรอบดวงตา เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะทำ
ให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นและอาจเป็นแบบถาวร รอยเหี่ยวย่นรอบใต้ตา
ก็จะยิ่งทำให้เห็นชัดเจนขึ้น

การดูแลตนเองเพื่อลดและป้องกันรอยคล้ำรอบดวงตา
การนอนหลับให้เพียงพอ
เรื่องการนอนหลับให้เพียงพอ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่เฉพาะการดูแลดวงตา แต่กับสุขภาพก็สำคัญเช่นกัน
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/156791_185729881438761_153027324709017_699641_5103176_n.jpg
ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอืน

การประคบด้วยถุงชา
วิธีนี้ จะเป็นการใช้ถุงชา แช่ในน้ำเย็นที่มีสารสกัดจากแตงกวา แล้วนำมาวางไว้
ที่ตาประมาณ 15-20 นาที วันละครั้ง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด
และลดการบวมรอบ ๆ ดวงตาได้

การกดรอบ ๆ ดวงตา Acupressure
เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำง่าย ๆ โดยการหลับตาและใช้นิ้วนางกดไปบริเวณ
ใต้ดวงตาข้างหนึ่งจากมุมด้านในออกไปจนมุมด้านนอก  โดยกดแต่ละตำแหน่งประมาณ
3 วินาที ประมาณ 10-15 ครั้งแล้วก็ให้ทำกับอีกข้าง

การใช้ครีมรอบดวงตา
http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/148286_185728568105559_153027324709017_699637_1291931_n.jpg
การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินทั้งสอง คือ Retinal (Vitamin A) และ
Vitamin K จะช่วยลดริ้วรอย และลดรอยคล้ำได้ หรือใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ
Vitamin C ซึ่งมีสาร antioxidant ก็ได้ผลดีเช่นกัน

การประคบเย็นด้วยแตงกวา หรือ มะเขือเทศ
http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/148240_185728458105570_153027324709017_699635_3064267_n.jpg
เตรียมแตงกวา หรือมะเขือเทศ ที่ฝานบาง ๆ แช่ตู้เย็นไว้ มาประคบที่ตาประมาณ
10 นาที จะช่วยลดการบวมและลดรอยคล้ำใต้ตาได้ จากการหดตัวของเส้นเลือด

การใช้ moisturizer และการใช้ sunscreen เป็นประจำ
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตาหรือไม่มี การที่ใช้ Moisturizer
และ ครีมกันแดด เป็นประจำเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว

ที่เขียนมา หมอหมีทำได้แค่ นอน กับ กิน
ได้ทาครีมบ้าง แต่ให้ทำบ่อย ก็ขี้เกียจครับ แต่สาว ๆ ทั้งหลายสนใจวิธีไหน
เชิญตามสะดวก แล้วมาบอกผลกันบ้างนะครับ

จาำก www.facebook/drcarebear

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น