Anti-Aging Medicine หรือ เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ เป็นวิชาความรู้ที่มีที่มาจากคำถามที่แทบทุกคนอยากรู้คำตอบ นั่นก็คือ "ทำยังไง ถึงจะแก่อย่างมีความสุข” หนึ่งในการปฏิบัติตัวตามแนวทางของ Anti-Aging Medicine ที่สำคัญ คือ การรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพ อาหารที่จัดได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารผิวนั้น มี 7 อย่างด้วยกัน คือ
ผักผลไม้สีส้มเหลือง
ล้วนมีสารอาหารในกลุ่มของวิตามินเอตามธรรมชาติ หรือที่เรียกว่ากลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) โดยมีสารหลักที่สำคัญคือ เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) เมื่อผิวหนังของคนเราถูกแสงยูวีทำลาย เกิดเป็นอนุมูลอิสระขึ้น เบต้าแคโรทีนสามารถเข้ามายับยั้งอนุมูลอิสระ หรือเรียกว่ามาปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงยูวีนั่นเอง นอกจากนี้ เบต้าแคโรทีนอาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร และยังมีส่วนเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเพิ่มการสร้างของเม็ดเลือดขาวอีกด้วย
ผักผลไม้สีม่วง
มีสารสำคัญคือ แอนโธไซยานินส์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบชั้นเลิศ ช่วยลดไขมันตัวไม่ดีคือ LDL ป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม ปอด และกระเพาะอาหาร และที่สำคัญสำหรับผิวพรรณคือ ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น จึงช่วยป้องกันและชะลออัตราการเหี่ยวตัวของผิวหนังได้
ผักผลไม้ที่มีสีเขียว
ในพืชผักสีเขียวจะมีสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่สำคัญอีกสองตัวคือ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) และคริพโตแซนทีน (Cryptoxanthin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสายตา ป้องกันการเกิดตาบอดในวัยชรา และยังมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์อยู่มาก ซึ่งไฟเบอร์เหล่านี้มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักและช่วยให้ขับถ่ายได้คล่องด้วย
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ในผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหรือที่เรียกกันว่า Soy นั้น มีสารอาหารที่สำคัญคือ ไอโซเฟลโวน (Isoflavones) ซาพอนิน (Saponins) และจีเนสทีน (Genistein) ซึ่งสารทั้งสามนี้ทำงานประสานกันในการช่วยต่อต้านมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
ปลาแซลมอน
ในปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาโอ นอกจากจะมีไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์มากมายแล้ว ยังมีสารบำรุงผิวแสนวิเศษที่ชื่อว่า DMAE หรือDimethylaminoethanol DMAE ต่างกับสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ ตรงที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มความคงตัวของผนังเซลล์ จึงช่วยให้เซลล์ทนต่อการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังช่วยเพิ่มระดับของสารอะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) ช่วยเพิ่มความกระชับของผิวได้อีกด้วย
โยเกิร์ต
โยเกิร์ตเกิดจากการหมักนมด้วยแบคทีเรียเช่น แลคโตบาซิลลัส หรือไบฟิโดแบคทีเรีย จึงถือเป็นอาหารที่มี Probiotic คือ แบคทีเรียที่ดีกับร่างกาย แบคทีเรียเหล่านี้จะช่วยเข้าไปสร้างสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ กำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค ปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลแข็งแรงขึ้น ช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้น การดูดซึมของวิตามินและสารอาหารอื่นๆ ดีขึ้น ลดการอักเสบของร่างกาย นอกจากวิตามินเอ ซี อี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเทพแล้ว โยเกิร์ตยังเป็นแหล่งของแคลเซียมจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างมากในการป้องกันการเกิดกระดูกพรุน
เห็ด
เห็ดมีสารอาหารที่จำเป็นเกือบทุกอย่างรวมกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และที่สำคัญคือ เส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ นอกจากนี้ยังมีไขมันต่ำ และไม่มีโคเลสเตอรอลเจือปน การทานเห็ดจึงช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องโดยไม่ทำให้อ้วนแต่อย่างใด เกลือแร่สำคัญที่พบในเห็ดคือ ซีลีเนี่ยม ซึ่งอาจจะมีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง และยังมีคอปเปอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวด้วย
แพทย์หญิงธิดากานต์ รัตนบรรณางกูรแพทย์ผิวหนัง
สถาบันสุขภาพผิวพรรณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น