บ่อยครั้งที่เรามักจะมึนหัว เวียนหัว บ้านหมุน โดยไม่ทราบสาเหตุ “Nurse อุ๊” เอาความรู้ เกี่ยวกับอาการนี้มาฝากค่ะ ที่สำคัญป้องกัน และแก้ไขได้ด้วย ได้ยินอย่างนี้แล้วอุ่นใจขึ้นเยอะเลยใช่มั๊ยคะ
มึนงง เวียนหัว
อาการเวียนหัว มึนงง ศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก แต่ถ้าจะลงรายละเอียดของอาการที่ว่า เพื่อช่วยในการวินิจฉัย และการรักษา
อาการเวียนหัว มึนงง ศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก แต่ถ้าจะลงรายละเอียดของอาการที่ว่า เพื่อช่วยในการวินิจฉัย และการรักษา
สามารถแบ่งอาการออกเป็นสองแบบ คือ
1. มีนงง จะเป็นลม Lightheadednessเป็นอาการที่มีความรู้สึกมีน ๆ หวิว ๆ คล้ายจะเป็นลม แต่ไม่มีความรู้สึกว่า รอบ ๆ ตัวหมุนไป อาการจะดีขึ้นเมื่อได้นอนราบ ถ้าไม่ดีขึ้นจะทำให้เป็นลมและหมดสติได้ บางครั้งอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
1. มีนงง จะเป็นลม Lightheadednessเป็นอาการที่มีความรู้สึกมีน ๆ หวิว ๆ คล้ายจะเป็นลม แต่ไม่มีความรู้สึกว่า รอบ ๆ ตัวหมุนไป อาการจะดีขึ้นเมื่อได้นอนราบ ถ้าไม่ดีขึ้นจะทำให้เป็นลมและหมดสติได้ บางครั้งอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
2.บ้านหมุน เป็นอาการที่มีความรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัว กำลังหมุนไป บางครั้งรู้สึกหมุน รู้สึกเอียง เมื่ออาการเวียนหัวบ้านหมุนมากขึ้น ก็จะมีคลื่นไส้อาเจียนตามมา และ จะไม่สามารถยืนหรือเดินได้ เนื่องจากสมดุลจะเสีย และทำให้หกล้มได้
ถึงแม้ว่าอาการนี้จะเกิดได้ทุกวัย แต่มีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ บางครั้งทำให้เกิดอาการกลัวว่าจะมีอาการเลยหลีกเลี่ยงกิจกรรมการออกกำลังกายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการหกล้มและทำให้เกิดการบาดเจ็บอีกด้วย
ถึงแม้ว่าอาการนี้จะเกิดได้ทุกวัย แต่มีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ บางครั้งทำให้เกิดอาการกลัวว่าจะมีอาการเลยหลีกเลี่ยงกิจกรรมการออกกำลังกายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการหกล้มและทำให้เกิดการบาดเจ็บอีกด้วย
Lightheadedness
อาการมีนงง หน้ามืด จะเป็นลม พบได้บ่อย ส่วนใหญ่จะไม่ได้เกิดจากโรคร้ายแรง มักจะเกิดจากภาวะที่มีความดันโลหิตต่ำลงและเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ บางครั้งเกิดขึ้นเมื่อนั่งอยู่แล้วลุกขึ้นเร็วเกิดไป
อาการมีนงง หน้ามืด จะเป็นลม พบได้บ่อย ส่วนใหญ่จะไม่ได้เกิดจากโรคร้ายแรง มักจะเกิดจากภาวะที่มีความดันโลหิตต่ำลงและเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ บางครั้งเกิดขึ้นเมื่อนั่งอยู่แล้วลุกขึ้นเร็วเกิดไป
สาเหตุทำให้เกิดอาการได้แก่:
- ภมิแพ้
- ผลจากอาการป่วยอย่างอื่น เช่นไข้หวัด หรือจากรักษาหวัดบางชนิด
- การขาดน้ำในร่างกาย จากไข้ ท้องเสีย หรืออาเจียน
- ความเครียด หรือภาวะที่มีการหายใจเร็วและหายใจตื้น ๆ มากเกินไ
- การใช้บุหรี่ เหล้า ยาเสพติด
แต่สาเหตุที่อันตรายก็มีได้ เช่น จากการเสียเลือด หรือมีเลือดออก เช่นเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ ถ้าปริมาณเลือดออกค่อนข้างมาก และเป็นแบบเฉียบพลันจะทำให้มีอาการได้
สาเหตุอื่นที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่นจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ หรือมีลิ้นหัวใจรั่ว ทำให้เลือดออกจากหัวใจไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
Vertigo- ภมิแพ้
- ผลจากอาการป่วยอย่างอื่น เช่นไข้หวัด หรือจากรักษาหวัดบางชนิด
- การขาดน้ำในร่างกาย จากไข้ ท้องเสีย หรืออาเจียน
- ความเครียด หรือภาวะที่มีการหายใจเร็วและหายใจตื้น ๆ มากเกินไ
- การใช้บุหรี่ เหล้า ยาเสพติด
แต่สาเหตุที่อันตรายก็มีได้ เช่น จากการเสียเลือด หรือมีเลือดออก เช่นเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ ถ้าปริมาณเลือดออกค่อนข้างมาก และเป็นแบบเฉียบพลันจะทำให้มีอาการได้
สาเหตุอื่นที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่นจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ หรือมีลิ้นหัวใจรั่ว ทำให้เลือดออกจากหัวใจไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
อาการบ้านหมุน เกิดจากความผิดปกติของระบบรับรู้สมดุลของร่างกายที่สมอง ซึ่งอาจจะเป็นปัญหามาจาก
- สายตา ซึ่งอยู่ในระบบของการรักษาสมดุลในการทรงตัวของร่างกาย
- เส้นประสาทสัมผัส ที่ส่งข้อมูลไปยังสมองให้รู้ว่าอยู่ท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวใด
- ระบบประสาทรับการทรงตัว ที่อยู่ในหูชั้นใน ซึ่งจะประกอบไปด้วยอวัยวะที่คล้ายก้นหอย และของเหลวภายใน ทำให้เรียกโรคนี้ว่า น้ำในหูไม่เท่ากัน
- สายตา ซึ่งอยู่ในระบบของการรักษาสมดุลในการทรงตัวของร่างกาย
- เส้นประสาทสัมผัส ที่ส่งข้อมูลไปยังสมองให้รู้ว่าอยู่ท่าทาง หรือการเคลื่อนไหวใด
- ระบบประสาทรับการทรงตัว ที่อยู่ในหูชั้นใน ซึ่งจะประกอบไปด้วยอวัยวะที่คล้ายก้นหอย และของเหลวภายใน ทำให้เรียกโรคนี้ว่า น้ำในหูไม่เท่ากัน
สาเหตุที่ทำให้มีอาการบ้านหมุน ได้แก่:
- โรคของหูชั้นใน เช่น benign paroxysmal positional vertigo (BPPV), Ménière’s disease, vestibular neuritis, or labyrinthitis.
- โรคของหูชั้นใน เช่น benign paroxysmal positional vertigo (BPPV), Ménière’s disease, vestibular neuritis, or labyrinthitis.
- การบาดเจ็บของหู หรือศีรษะ
- โรคไมเกรน
- การที่เลือกไปเลี้ยงฐานของสมองไม่เพียงพอ
- เนื้องอกภายในหู เช่น cholesteatoma
- เนื้องอกในสมอง หรือมะเร็งที่ลุกลามไปที่สมอง
แต่ถ้าเกิดมีอาการเวียนศีรษะ และหมดสติ หรือความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป ต้องพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจดูสาเหตุผิดปกติในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคไมเกรน
- การที่เลือกไปเลี้ยงฐานของสมองไม่เพียงพอ
- เนื้องอกภายในหู เช่น cholesteatoma
- เนื้องอกในสมอง หรือมะเร็งที่ลุกลามไปที่สมอง
แต่ถ้าเกิดมีอาการเวียนศีรษะ และหมดสติ หรือความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป ต้องพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจดูสาเหตุผิดปกติในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง
การดูแลเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการ
หน้ามืด เป็นลม Lightheadedness ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและจะหายได้เอง แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ คืออาการไม่ดีขึ้น มีการเต้นหัวใจผิดปกติ หรือหมดสติ ควรพบแพทย์ และที่สำคัญคือการป้องกันการหกล้ม
- ให้นอนราบหนึ่งถึงสองนาที เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น หลังจากนั้นถ้าดีขึ้นแล้ว ให้ลุกขึ้นช้า ๆ หากไม่มีอาการค่อยลุกขึ้นช้า ๆ
- พักผ่อน บางครั้งจะมีอาการช่วงที่พักผ่อนไม่พอ หรือเป็นหวัด จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อป้องกันการเกิดอาการ
- ไม่ควรขับรถ หรือเครื่องจักร หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ไม่ควรใช้สารที่อาจจะมีผลต่อการไหลเวียนเลือดเช่น บุหรี่ กาแฟ เหล้า
- อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้ามีอาการท้องเสียหรืออาเจียน ควรดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนเพื่อป้องกันการขาดน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
ถ้าคุณมีอาการบ้านหมุน vertigo:
- อย่านอนราบไปกับพื้น ให้นอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยลดอาการบ้านหมุนได้ดีกว่า
- เคลื่อนไหวให้ช้าลง เพื่อป้องกันการหกล้ม
- พักผ่อน บางครั้งจะมีอาการช่วงที่พักผ่อนไม่พอ หรือเป็นหวัด จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อป้องกันการเกิดอาการ
- ไม่ควรขับรถ หรือเครื่องจักร หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ไม่ควรใช้สารที่อาจจะมีผลต่อการไหลเวียนเลือดเช่น บุหรี่ กาแฟ เหล้า
- อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้ามีอาการท้องเสียหรืออาเจียน ควรดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนเพื่อป้องกันการขาดน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
ถ้าคุณมีอาการบ้านหมุน vertigo:
- อย่านอนราบไปกับพื้น ให้นอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยลดอาการบ้านหมุนได้ดีกว่า
- เคลื่อนไหวให้ช้าลง เพื่อป้องกันการหกล้ม
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจเพิ่มเติม
- มีคลื่นไส้หรืออาเจียนอาการเป็นมากขึ้น
- มีภาวะขาดน้ำปานกลางหรือรุนแรง
- มีภาวะหมดสติ
- อาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์
- มีอาการบ่อย หรือรุนแรง
- คุณสามารถป้องกันอาการหน้ามืดเวียนหัวได้โดย
- เวลาลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอน ให้ช้าลง
- มีคลื่นไส้หรืออาเจียนอาการเป็นมากขึ้น
- มีภาวะขาดน้ำปานกลางหรือรุนแรง
- มีภาวะหมดสติ
- อาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์
- มีอาการบ่อย หรือรุนแรง
- คุณสามารถป้องกันอาการหน้ามืดเวียนหัวได้โดย
- เวลาลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอน ให้ช้าลง
- นั่งที่ขอบเตียงสักสองสามนาทีก่อนจะลุกขึ้น
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เวลาเดินพยายามหลีกเลี่ยงการก้มมองเท้าตลอดเวลา
- เวลานั่งรถ พยายามนั่งหน้า และมองไปไกล ๆ โฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่ง
- เวลารถจะเข้าโค้ง ให้มองไปไกล ๆ ไว้ล่วงหน้า
- เลี่ยงการอ่านหนังสือบนรถ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเงยหน้านาน ๆ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เวลาเดินพยายามหลีกเลี่ยงการก้มมองเท้าตลอดเวลา
- เวลานั่งรถ พยายามนั่งหน้า และมองไปไกล ๆ โฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่ง
- เวลารถจะเข้าโค้ง ให้มองไปไกล ๆ ไว้ล่วงหน้า
- เลี่ยงการอ่านหนังสือบนรถ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเงยหน้านาน ๆ
การใช้ยาเบื้องต้น ในผู้ป่วยที่มีอการเวียนหัว
1.Dramamine
เป็นยา ที่ลดอาการเวียนหัว มึนงง คลื่นไส้อาเจียน แก้เมารถ เมาเครื่องบิน แต่อาจทำให้ง่วงนอน
เป็นยา ที่ลดอาการเวียนหัว มึนงง คลื่นไส้อาเจียน แก้เมารถ เมาเครื่องบิน แต่อาจทำให้ง่วงนอน
2.Flunarizine หรือ Cinnarizine
เป็นยาที่ใช้ทั้งในผู้ป่วยไมเกรน และในผู้ป่วยที่มีอาการเวียนหัว บ้านหมุน
เป็นยาที่ใช้ทั้งในผู้ป่วยไมเกรน และในผู้ป่วยที่มีอาการเวียนหัว บ้านหมุน
3. vitamin B12
ในบางรายอาจมีการขาดวิตามิน B12 ทำให้มีอาการ
ในบางรายอาจมีการขาดวิตามิน B12 ทำให้มีอาการ
เพื่อนๆลองเอาวิธีที่ “Nurse อุ๊” แนะนำ ไปปฏิบัติดูนะคะ รับรองอาการเวียนหัว มึนงง บ้านหมุน จะไม่มากวนใจอย่างที่แล้วมาค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น